รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เผชิญภัยพิบัติไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เผาผลาญพื้นที่ป่าไม้ไปแล้ว 240,000 เอเคอร์ หรือราว 607,200 ไร่ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 ราย ขณะที่ทางการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 12,000 ชีวิตมาช่วยดับไฟ แต่ยังควบคุมเพลิงได้เพียง 20%
วิกฤตไฟป่าซึ่งลุกลามพื้นที่ตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียยังคงเลวร้ายลงเรื่อยๆ ขณะที่ทางการมลรัฐได้จัดสรรงบประมาณเพื่อต่อสู้กับไฟป่าแล้วจำนวน 115 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 ของงบฯ ฉุกเฉินทั้งสิ้น 442.8 ล้านเหรียญสหรัฐของปีงบประมาณใหม่ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ไฟได้เผาทำลายสิ่งปลูกสร้างแล้วกว่า 1,000 แห่ง และกำลังลุกลามไปยังบ้านเรือนราว 25,000 หลัง ขณะที่กรมป่าไม้และพิทักษ์ไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนียยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 ราย โดยจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงรวมอยู่ด้วย
ล่าสุดทางการได้อพยพประชาชนกว่า 52,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่กว่า 12,000 คนได้กระจายกำลังกันดับเพลิงในพื้นที่ 17 จุด โดยจุดที่เกิดไฟป่าใหญ่ที่สุดซึ่งเรียกว่า ‘Carr Fire’ นั้นกินอาณาบริเวณกว้างเกือบ 104,000 เอเคอร์ หรือกว่า 263,120 ไร่ เผาบ้านเรือนจำนวน 818 หลังในเขตเทศมณฑลชาสตาและทรินิตีจนวอด
ทางการระบุว่าสภาพอากาศร้อนและแห้งทำให้พื้นที่ทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียตกอยู่ในความเสี่ยงของไฟป่าครั้งนี้ ขณะที่บางพื้นที่มีความชื้นต่ำและกระแสลมแรง ซึ่งทำให้ไฟลุกลามได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคในเรื่องทรัพยากรที่จำกัด แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของรัฐแคลิฟอร์เนียก็ตาม อย่างไรก็ดี ทางการแคลิฟอร์เนียคาดว่าภายในสุดสัปดาห์นี้จะได้กำลังเสริมจากรัฐฟลอริดา มิชิแกน นิวเจอร์ซีย์ แมริแลนด์ นิวเม็กซิโก และออริกอน มาช่วยดับไฟ ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
อ้างอิง: