เฟซบุ๊กผจญวิกฤตหนัก หุ้นร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 20% คาดมูลค่าบริษัทลดลงกว่า 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เหตุยอดผู้ใช้และรายรับไม่โตตามเป้า จากผลกระทบความบกพร่องการปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ช่วงต้นปี
โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ เฟซบุ๊กกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ หลังหุ้นของบริษัทช่วงเปิดตลาดเช้าวันพฤหัสบดีที่ 26 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา ร่วงหนักสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 20% ตกมาอยู่ที่ประมาณ 174.97 เหรียญสหรัฐ (ช่วงปิดตลาดของวันพุธที่ 25 ก.ค. หุ้น Facebook ยังมีมูลค่าที่ 217.50 เหรียญสหรัฐ) ก่อนปิดตลาดของวันที่ 176.26 เหรียญสหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทลดลงกว่า 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
รายงานบางส่วนยังระบุอีกด้วยว่า วิกฤตในครั้งนี้ส่งผลให้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก หัวเรือใหญ่ และผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กสูญทรัพย์ไปทั้งสิ้นกว่า 1.51 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยสาเหตุที่โซเชียลมีเดียเบอร์ 1 ของโลก ต้องผจญกับวิกฤตในครั้งนี้เป็นผลมาจากยอดผู้ใช้และสัดส่วนรายได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 (เมษายน-มิถุนายน) ที่ไม่เติบโตตามเป้าเท่าที่ควร ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากการบกพร่องกรณีข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้รั่วไหลไปยัง Cambridge Analytica เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
เฟซบุ๊กได้ออกมาเปิดเผยรายงานยอดผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม และผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 2 ของบริษัท ประจำปี 2018 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยพบว่า ยอดผู้ใช้งานแบบรายเดือน (Monthly Active Users) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกราว 30 ล้านราย หรือประมาณ 1.36% เท่านั้น โดยพบว่า ผู้ใช้งานในโซนยุโรปแบบรายวันลดลงไปกว่า 3 ล้านราย
เช่นเดียวกับรายรับรวมของบริษัทที่เพิ่มขึ้นแค่ 10.5% จากไตรมาสแรก (11,966 ล้านเหรียญสหรัฐ) อยู่ที่ราว 13,231 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ซึ่งจากรายงานทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่าผลงานของเฟซบุ๊กในช่วงระหว่างเดือนเมษายนจนถึงมิถุนายนที่ผ่านมาน่าผิดหวัง และไม่เป็นไปตามเป้าหมายของนักลงทุน และการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่
มาร์กได้กล่าวในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของบริษัทไว้ว่า “ชุมชนของพวกเราและภาคธุรกิจยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว พวกเรามุ่งมั่นที่จะลงทุนเพื่อช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกปลอดภัย (ข้อมูล) และยังคงจะหาวิธีใหม่ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้เชื่อมโยงถึงกันต่อไป”
นับเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากของเฟซบุ๊ก เพราะราคาหุ้นที่ตกลงกว่า 20% ในครั้งนี้ เรียกได้ว่าลดลงต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัทแล้ว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปี 2012 ที่มูลค่าหุ้นของพวกเขาลดลงที่ราว 11% แน่นอนว่า ผู้นำอย่าง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กำลังพยายามอย่างหนัก เพื่อดิ้นหาหนทางพลิกวิกฤตในครั้งนี้
อ้างอิง:
- s21.q4cdn.com/399680738/files/doc_financials/2018/Q2/Facebook-Reports-Second-Quarter-2018-Results.pdf
- www.cnbc.com/2018/07/26/facebook-is-on-pace-for-its-worst-day-ever.html
- AFP
- time.com/5349862/mark-zuckerberg-facebook-stocks/?utm_medium=social&utm_campaign=time&utm
- www.theguardian.com/technology/2018/jul/26/facebook-market-cap-falls-109bn-dollars-after-growth-shock?CMP=Share_iOSApp_Other
- www.bloomberg.com/news/articles/2018-07-26/-don-t-unfriend-facebook-on-valuable-media-assets-analysts-say
- www.nasdaq.com/symbol/fb