วันนี้ (26 กรกฎาคม) พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีมีกระสุนปืนใหญ่จำนวน 10 นัด ตกในเขตพื้นที่ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ว่า ไม่ใช่กระสุนจากฝั่งทหารไทยอย่างแน่นอน มั่นใจว่าทหารไทยสามารถควบคุมการใช้อาวุธ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมาะสม ได้สัดส่วน และอยู่ในกรอบกติกาสากลอย่างเคร่งครัด
แต่ที่ผ่านมามักพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธสนับสนุนระยะไกล กระทำต่อเป้าหมายพลเรือนจำนวนมาก ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ในลักษณะที่เป็นไปโดยเจตนา และจงใจที่จะใช้อาวุธไปสู่เป้าหมายอื่นที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น การใช้อาวุธฯ ต่อโบราณสถาน เพื่อมุ่งหวังให้สังคมโลกเข้าใจผิดต่อฝ่ายไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ
จนกระทั่งล่าสุด ก็ได้มีการใช้อาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างปืนใหญ่ เข้าไปใน สปป.ลาว ถ้าไม่เป็นไปโดยตั้งใจคงไม่สามารถผิดเพี้ยนไปได้ไกลขนาดนั้น ทั้งนี้ คงเพื่อต้องการให้ สปป.ลาว และสังคมโลกเข้าใจผิดต่อฝ่ายไทยเหมือนความพยายามที่ผ่านมา
พล.ต. วินธัยกล่าวอีกว่า ลักษณะพฤติกรรมดังกล่าว ยังถือเป็นการกระทำการต่อสู้นอกกฎกติกา ขอให้งดเว้นการกระทำในลักษณะดังกล่าว เพราะการกระทำในลักษณะเช่นนี้ ไม่ใช่การกระทำของสุภาพบุรุษชายชาติทหาร เชื่อว่าจะมีผลต่อความน่าเชื่อถือของกัมพูชาในสายตาของสังคมโลกอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ กองทัพบกยืนยันว่า ฝ่ายไทยมีมาตรการควบคุมการใช้อาวุธอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ประชิดชายแดน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนหรือพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหาร และกองทัพบกจะยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่าย สปป.ลาว เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศต่อไป