วานนี้ (15 กรกฎาคม) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมในวันนี้ (16 กรกฎาคม) โดยระบุว่า “การนิรโทษกรรม ไม่ควรเป็นเพียงเครื่องมือที่เลือกปฏิบัติ แต่ต้องเป็นเครื่องมือสมานรอยร้าว สลายความขัดแย้ง และเยียวยาบาดแผลให้กับทุกฝ่าย”
วันพรุ่งนี้ สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมจำนวน 5 ฉบับ ซึ่งแต่ละฉบับมีรายละเอียดและขอบเขตที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม หากแต่ละพรรคยังคงยืนยันจะโหวตรับเฉพาะร่างของตัวเอง และโหวต ‘ไม่เห็นชอบ’ ต่อร่างของฝ่ายอื่น สุดท้ายอาจได้เพียง 1-2 ร่างที่ผ่านหลักการ และเป็นร่างที่ไม่ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบทุกฝ่าย ซึ่งไม่อาจช่วยคลี่คลายความขัดแย้งในสังคมไทยได้อย่างแท้จริง
ณัฐพงษ์ เสนอทางออกว่า ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ไม่ใช่เพื่อปิดกั้นความคิดที่ต่างกัน แต่เพื่อเปิดพื้นที่ให้ถกเถียงได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยเสนอให้
- ทุกพรรคโหวตรับร่างของตัวเอง เพื่อยืนยันจุดยืนของตนเอง
- งดออกเสียงต่อร่างของพรรคอื่น แทนที่จะโหวตไม่เห็นชอบ
ณัฐพงษ์ ระบุว่า วิธีนี้จะทำให้ร่างนิรโทษกรรมทุกฉบับผ่านเข้าสู่วาระที่ 2 เพื่อให้ทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่เห็นต่างในแต่ละร่าง ได้มีโอกาสมาแลกเปลี่ยนอย่างเปิดกว้างในชั้นกรรมาธิการ
“นี่ไม่ใช่การโหวตเพื่อบอกว่า ‘เราไม่เห็นด้วยกับใคร’ แต่คือการโหวตเพื่อบอกว่า ‘เราเห็นด้วยว่าต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม’” ณัฐพงษ์กล่าว
ณัฐพงษ์ทิ้งท้ายว่า การงดออกเสียงในประเด็นที่เห็นไม่ตรงกันทั้งหมด อาจไม่ใช่ความเงียบเฉย หรือความไม่จงรักภักดี แต่คือการเปิดพื้นที่ให้สังคมมีทางออกร่วมกันในสภาอย่างปลอดภัย