วันนี้ (3 กรกฎาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังรับหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีแนวคิดจะย้ายข้าราชการที่ใกล้ชิดกับ อนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ว่า หากจะมีการโยกย้ายก็โยกย้ายตามหน้าที่การงาน และตามนโยบายที่จะทำ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (4 กรกฎาคม) จะไปมอบนโยบาย แล้วอาจจะต้องเริ่มคุยกันในแต่ละส่วน แต่ยอมรับว่า มีการพูดคุยกันไปบ้างแล้ว
ภูมิธรรมกล่าวว่า งานเร่งด่วนที่จะต้องทำ คือ ยาเสพติดเป็นอันดับ 1 ขณะที่ปัญหาเรื่องที่ดินเขากระโดงจะต้องทำตามภารกิจซึ่งเป็นเรื่องค้างเก่า และต้องหยิบเรื่องที่ประชาชนมีข้อคิดเห็นมาเคลียร์ดูใหม่เพื่อให้หายความคลางแคลงใจ
ส่วนเรื่องที่ดินเขากระโดงต้องทำให้แล้วเสร็จในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้หรือไม่ เพราะทั้งกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทยอยู่ในมือของพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรมกล่าวว่า “อะไรที่ทำให้ดีขึ้น ผมทำทั้งนั้น อะไรที่เป็นเรื่องค้างเก่าไม่มีทางออกวางไว้เฉยๆ ไม่มีใครสนใจ ผมพร้อมตัดสินใจ ทุกเรื่องคุณจะได้เห็นความเด็ดเดี่ยวของผมในการแก้ปัญหา”
ส่วนกรณีที่ดินอัลไพน์จะได้เห็นความกล้าหาญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตรหรือไม่ และประเมินว่าจะสะสางเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จเมื่อใด ภูมิธรรมกล่าวว่า ทุกๆ เรื่องที่มีปัญหาตนเด็ดขาดที่จะทำ ทุกเรื่องที่คั่งค้างตนจะจัดการโดยเร็วที่สุด แต่วันนี้เพิ่งเข้าทำงานจะให้ประเมินและไปตรวจสอบจนกระทั่งมั่นใจก่อน
ภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีที่ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 สั่งปิดการประชุมระหว่างฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุม ว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่เคยกำชับไว้แล้วว่าให้ทุกคนทำหน้าที่ในช่วงรอยต่อ ซึ่งอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง ส่วนที่ ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการระบุว่าสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมเป็นสส.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ต้องให้ทางหัวหน้าพรรคกำชับกันต่อไป
ส่วนหลังจากนี้ทุกวันพุธและพฤหัสบดีที่มีการประชุมสส.จะต้องให้สส.ผู้ที่เป็นรัฐมนตรี ไปทำงานที่สภานั้น ภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ตามสภาพ ซึ่งขณะนี้เราต้องการให้รัฐมนตรีใกล้ชิดกับสส.มากที่สุด เพื่อมาตอบกระทู้ถามในวันพฤหัสบดี แต่ด้วยภารกิจของรัฐมนตรี จึงพยายามจะตัดทอนทุกอย่างให้สมดุลกัน
ทั้งนี้มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้สะท้อนเสถียรภาพรัฐบาล เพราะรัฐบาลเพิ่งตั้งใหม่ในวันนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ ขออย่ามองลบจนเกินไป ส่วนอำนาจหน้าที่ของรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในการยุบสภาได้นั้น ยืนยันว่าจะทำตามอำนาจที่รัฐธรรมนูญให้ไว้ทั้งหมด และยังไม่มีอะไรที่เป็นข้อห้าม