วันนี้ (3 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านประชุมหารือทิศทางการทำงานร่วมกันในวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม
โดยหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ร่วมกันให้การต้อนรับ อนุทิน ชาญวีรกูล สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นครั้งแรก ภายหลังช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ณัฐพงษ์และอนุทินได้หารือกันเป็นการส่วนตัว
สำหรับแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มาร่วมประชุมในวันนี้ นอกจากณัฐพงษ์และอนุทิน ยังมี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, ฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และ กัณวีร์ สืบแสง สส.แบบบัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม
ณัฐพงษ์กล่าวในช่วงต้นของการประชุมว่า ในการเปิดสมัยประชุมใหม่นี้ เราจะมาหารือกันว่า ในฝั่งของพรรคฝ่ายค้าน มีอะไรที่สามารถขับเคลื่อนร่วมกันได้ ขณะเดียวกันพรรคฝ่ายค้านมีบางอย่างที่ไม่เหมือนพรรคร่วมรัฐบาล เราจึงให้เกียรติซึ่งกันและกัน
“อะไรที่เป็นจุดยืนหรือข้อแตกต่างของพรรคฝ่ายค้าน ก็จะไม่ก้าวก่ายกัน วัตถุประสงค์ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อแสวงหาจุดร่วมที่จะผลักดันร่วมกันได้ ภายใต้สถานการณ์ของประเทศที่วิกฤติในปัจจุบัน” ณัฐพงษ์ระบุ
ด้านอนุทินกล่าวว่า วันนี้เป็นครั้งแรกที่พรรคภูมิใจไทยได้มาปฎิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรในฐานะที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน จริงๆ แล้ว พวกเราทุกคนรู้จักกันหมด และเมื่อเช้านี้ ก็มีการประชุมหารือร่วมกับผู้นำฝ่ายค้านฯ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น
“ผมยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยจะปฎิบัติหน้าที่ในฐานะและบทบาทของการเป็นฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ร่วมกันกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค” อนุทินกล่าว
ทั้งนี้ หลังจากการหารือร่วมกันราว 30 นาที ได้มีการแถลงข้อสรุปต่อสื่อมวลชน โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเห็นตรงกันว่า รัฐบาลต้องถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ออกไป โดยไม่เสนอร่างนี้กลับเข้าไปอีก อีกประเด็นคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งมีรายละเอียดอีกมาก แต่เห็นตรงกันในเรื่องการ ปลดล็อกการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เดินหน้าทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ยังมีความเห็นร่วมกันเรื่องการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีการเมือง ซึ่งยังมีรายละเอียดที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอาจยังเห็นไม่ตรงกัน รวมถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ซึ่งขอรอดูสถานการณ์ต่อไป