พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และนักจิตวิทยา โดยไม่ไปสัมภาษณ์หรือรบกวนการใช้ชีวิตของเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน และครอบครัว ซึ่งถือเป็นการเคารพสิทธิส่วนบุคคล และสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองเด็กด้วย
“กรณีของสื่อต่างชาติที่ไปสัมภาษณ์เด็กและพ่อแม่ถึงที่บ้าน ทราบว่าไม่ได้ประสานงานกับทางอำเภอแม่สายก่อน จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างมาก ดังนั้น เรื่องนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับสื่อมวลชนและสังคมได้เป็นอย่างดี”
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไม่มีใครบังคับหรือจำกัดสิทธิของใครได้ แต่ถือเป็นดุลพินิจของแต่ละบุคคลว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ และหน่วยงานของรัฐได้ชี้แจงแนวทางอย่างชัดเจนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายดูแลกวดขันเรื่องการดูแลเด็กตามหลักสากล รวมถึงการติดต่อขอสัมภาษณ์เด็กและครอบครัวให้มากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นได้รับทราบว่า ครอบครัวของเด็กก็ไม่สบายใจที่มีสื่อติดต่อขอสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อการเรียนและชีวิตส่วนตัว
โดยจังหวัดเชียงรายได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้ และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเด็กทั้ง 13 คน ประกอบด้วยผู้แทนจากหลายฝ่าย เช่น นักจิตวิทยา นักพัฒนาสังคม ฯลฯ และมีนายอำเภอแม่สายเป็นหัวหน้าทีม จึงแนะนำให้ผู้ปกครองเด็กส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการของอำเภอ เพื่อช่วยพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อไป
“นายกฯ ได้รับทราบว่า ขณะนี้มีบริษัทภาพยนตร์ต่างประเทศและบริษัทของไทยส่วนหนึ่ง มีความประสงค์จะจัดสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับการช่วยเหลือทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวง โดยส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้เป็นข่าวที่รับรู้ไปทั่วโลก และจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ แต่ทุกอย่างจะต้องวางแผนเตรียมการให้ดี เพื่อให้เกิดผลได้มากกว่าผลเสีย จึงจะมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาดูแลเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่ง ครม. จะได้พิจารณารายละเอียดในเร็วๆ นี้”