×

ที่แรก! เปิดบทสัมภาษณ์แม่ทัพภาคที่ 2 ในวันที่การเมืองแตกร้าว แนะนายกฯ “มุ่งมั่น-มีสติ แก้ไขปัญหา พาชาติรอดปลอดภัย”

20.06.2025
  • LOADING...
แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ให้สัมภาษณ์เรื่องคลิปเสียงและความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ท่ามกลางอุณหภูมิการเมืองที่เดือดทะลุปรอท ทีมข่าว THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยเปิดใจ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บุรุษที่ประชาชนไทยทั่วประเทศในตอนนี้ พากันส่งกำลังใจและความชื่นชมยกย่อง ต่อบทบาทหน้าที่ในการยืนหยัดเป็นเสาหลัก ปกป้องอธิปไตยของชาติ รับมือความขัดแย้งและการรุกล้ำผืนแผ่นดินไทยอย่างองอาจ และไม่หวั่นเกรงใคร

 

ภาระหน้าที่ในฐานะผู้บัญชาการ จะหนักหน่วงและเผชิญความท้าทายมากแค่ไหน และความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลในการรักษาผลประโยชน์และอธิปไตยของชาติยังคงเหนียวแน่นอยู่หรือไม่

 

ติดตามจากบทสัมภาษณ์จากชายชาติทหาร ที่ประกาศว่า “พร้อมจะสละ ‘เลือด’ และ ‘ชีวิต’ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย

 

ผู้สื่อข่าว: จากสถานการณ์ตอนนี้ ที่มีบรรยากาศตึงเครียดจากทั้งในและนอกประเทศ ทางท่านแม่ทัพภาคที่ 2 มีความรู้สึกอย่างไร?

 

พล.ท. บุญสิน: ในประเด็นคลิปสนทนาที่เผยแพร่ออกมา ท่านนายกฯ ก็ได้โทรมาขอโทษผมทันทีครับ เพราะว่าท่านก็ชี้แจงว่าเป็นเรื่องของการสนทนาหลังบ้านซึ่งไม่เป็นทางการ ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ท่านก็ขอโทษผมนะ ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ก็ถือว่าเป็นเรื่องของทางรัฐบาลที่ดำเนินการอยู่ เป็นเทคนิคอะไรต่างๆ ผมเข้าใจครับ แต่ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับผู้บัญชาทุกระดับอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตลอดถึงท่านนายกรัฐมนตรี และทุกท่านที่ เป็นผู้บังคับบัญชาผมอยู่แล้วครับ 

 

แต่ผมก็เป็นห่วงว่ากระแสของพี่น้องประชาชนอาจจะไม่ค่อยพอใจในเสียงคลิปนั้น ขอให้ท่านได้ไปชี้แจงสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนให้ดี ไม่ต้องเป็นห่วงผม ส่วนตัวผมนั้นยังยืนยันที่จะทำหน้าที่เดิมที่ผมได้พูดไว้ทุกอย่าง ในการที่จะปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติแล้วก็ดูแลเส้นเขตแดนอย่างดีที่สุดครับ

 

ผู้สื่อข่าว: ในฐานะที่ท่านแม่ทัพเป็นทหารที่มากประสบการณ์ในเรื่องกลศึกสงคราม มีความเห็นยังไงครับต่อกลวิธีของสมเด็จฮุนเซน ที่ใช้คลิปเสียงเป็นเครื่องมือในการสั่นคลอนความเชื่อมั่นของรัฐบาล?

 

พล.ท. บุญสิน: ทางกัมพูชาจะมีวิธีอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ขออย่างเดียวว่าจะไม่ล้ำดินแดน ซึ่งผมดูแลอยู่ตอนนี้ ผมจะต้องมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตยเท่านั้นครับ ส่วนเรื่องการเมืองจะอย่างไรก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องพูดคุยกันต่อไปครับ

 

ผู้สื่อข่าว: ในฐานะที่แม่ทัพดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชามายาวนาน ถือว่ามีประสบการณ์ความเป็นผู้นำสูง จะมีข้อแนะนำอะไรกับนายกฯ ในการรับมือกับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่?

 

พล.ท. บุญสิน: ก็ขอให้ท่านได้มีความมุ่งมั่นแล้วก็มีสติในการแก้ไขปัญหา แล้วก็ทุกอย่างมีปัญหาหมดครับ ก็ขอให้ท่านได้หาเหตุให้เจอแล้วก็อาจจะตั้งทีมงานที่มีประสบการณ์ในการช่วยเหลือ เพื่อนำพาประเทศชาติไปให้รอดปลอดภัยแล้วก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาคมโลกให้ได้ครับ

 

ผู้สื่อข่าว: ยังยืนยันท่าทีของกองทัพในการจับมือกับรัฐบาลดูแลผลประโยชน์ของประเทศ?

 

พล.ท. บุญสิน: ครับ ตัวผมก็ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่ง กลไกส่วนหนึ่งของกองทัพ ของรัฐบาลอยู่แล้วครับ ครับ ผมต้องฟังคำสั่งจากผู้บัญชาการทหารบกทุกอย่าง ท่านผู้บัญชาการทหารบกก็ต้องรับนโยบายจากรัฐบาล ถ้าเป็นนโยบายที่ถูกต้องตามกฎหมาย ประกอบด้วยคุณธรรมแล้วเนี่ย ผมว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรที่จะดำเนินการต่อ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ของประเทศชาติ พี่น้องประชาชนดูอยู่ครับ ดูการทำงานของทางเหล่าทัพอยู่แล้ว ซึ่งพวกเรานั้นยืนยันว่า เรารักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ แผ่นดิน แล้วก็พี่น้องประชาชนเป็นหลักอยู่แล้วครับ

 

ผู้สื่อข่าว: ในคลิปเสียงที่เผยแพร่ออกมานั้น การที่ผู้นำกัมพูชากล่าวหาว่าทหารไทยหลอกลวง และทำการปิดด่านหลังจากที่มีการเจรจาปรับกำลัง ทางกองทัพมีความคิดเห็นอย่างไร?

 

พล.ท. บุญสิน: กรณีนั้น ทางทหารกัมพูชามีการรุกล้ำเส้นเขตแดนมาก่อน แล้วก็มาขุดร่องคูเลตนะครับ ทั้งที่เนิน 745 แล้วก็ที่ต้นพญาสัตบรรณ เลยเข้ามา 100-150 เมตร ตามที่เป็นภาพข่าว นะครับ ซึ่งไม่เคยมีกำลังพลของกัมพูชามาอยู่ตั้งแต่ปี 54 ซึ่งเป็นการปฏิบัติใหม่ รุกล้ำใหม่

 

โดยในยุคที่เป็นที่ผมเป็นแม่ทัพอยู่ ผมต้องทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ผมก็ให้แจ้งเตือนไปหลายครั้งนะครับ ก็ให้ปรับกำลัง เมื่อการต่อรองอะไรต่าง ๆ การลดขั้นตอนการให้ความสะดวกสบายที่ด่านพรมแดน ก็คือหนึ่งมาตรการหนึ่งที่เราจะต้องปฏิบัติ เพื่อขอความร่วมมือให้ทางกัมพูชาได้ถอนหรือปรับกำลังใหม่ให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม ซึ่งเขาก็ให้ความร่วมมือ ก็ต้องขอบคุณทางกัมพูชา 

 

หลังจากผู้บัญชาการระดับสูงได้คุยกันแล้วก็นำไปสู่การปรับกำลังใหม่ แต่เรายังไม่ได้เปิดด่านเนื่องจากว่า หลังจากนั้นเราจะต้องขอประชุม RBC ก่อน ซึ่ง RBC ก็คือมีแม่ทัพไทยกับแม่ทัพของกัมพูชาเป็นประธานทั้งสองฝ่าย แต่ทางกัมพูชายังขอเลื่อนไปก่อน 

 

การถอนกำลังเนี่ยคือวัตถุประสงค์ที่เราอยากจะให้ถอนกำลังตลอดแนว คือหลังจากที่มีเหตุการณ์ ทั้งกัมพูชาก็นำกำลังมาเพิ่มเติมตลอดเต็มหน้าแนว จนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่ได้มีการถอน ถ้าถอนคือเราก็จะถอนทั้งสองฝ่าย นี่คือเหตุผลว่าทำไม ทำไมเราถึงยังไม่ได้เปิดด่าน 100% มันมีที่มาที่ไป ไม่ใช่แค่ว่าเราไปเข้าโจมตี อันนั้นมันไม่ใช่ มันเป็นเรื่องของการเข้าใจผิด แล้วก็เป็นการเข้าใจผิดกันแล้วก็เราก็ยุติการปะทะกันโดยเร็ว

 

ผู้สื่อข่าว: เท่ากับว่าตอนนี้กลไกที่จะแก้ปัญหาให้เปิดหรือปิดด่านระหว่างทั้งสองฝ่าย ก็จะไปตกอยู่ที่ RBC?

 

พล.ท. บุญสิน: ใช่ ที่ RBC แล้วก็ผมต้องรับนโยบายจากผู้บัญชาการทหารบกเท่านั้นครับ แล้วก็ผู้บัญชาการทหารบกก็จะหารือทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ แล้วก็ในการปฏิบัติต่อประเทศกัมพูชา ซึ่งเราจะต้องแก้ปัญหาร่วมกัน

 

ผู้สื่อข่าว: มีไทม์ไลน์หรือยังครับว่าจะคุย RBC กันเมื่อไหร่?

 

พล.ท. บุญสิน: กัมพูชาเลื่อนไปก่อน ก็ยังไม่มีวันที่ชัดเจนนะครับ เลื่อนไปก่อนครับ

 

ผู้สื่อข่าว: ในระหว่างนี้ ทางกองทัพทั้งสองฝั่งยังมีการสื่อสารกันอยู่ไหม?

 

พล.ท. บุญสิน: ก็สื่อสารกันตลอดครับ เราก็ไม่มีอะไร เพียงแต่ว่ากำลังเรายังไม่ได้ถอน ถ้ากำลังไม่ได้ถอนก็ มันก็เกิดความตึงเครียดทั้งสองฝ่าย ซึ่งมันก็จะกำลังบางคนทั้งสองฝ่ายก็จะเหนื่อยล้า มันก็ไม่เป็นผลดีของทั้งสองประเทศนะครับ

 

ผู้สื่อข่าว: จากท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่จะไม่เปิดด่านก่อนแน่นอน จนกว่าฝ่ายไทยจะเปิดด่านก่อน อันนี้คิดว่าใน RBC เนี่ย จะตกลงกันได้ไหมครับ?

 

พล.ท. บุญสิน: RBC มันจะไม่ได้ เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของแม่ทัพทั้งสองประเทศนะครับ แต่ก็สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ผมว่าเรื่องทั้งหมด มันอยู่ที่ผู้นำสูงสุดของกัมพูชาด้วย ดังนั้นผู้นำสูงสุดของกัมพูชากับผู้นำไทยก็คงต้องคุยกันว่า จะทำอย่างไรต่อ   มันเป็นเรื่องเหลี่ยมการเมือง ซึ่งแต่ละฝ่ายเนี่ยคิดอะไรอยู่ เราจะต้องมาพูดคุยกัน เพื่อให้เกิดความสมดุลแล้วก็เกิดความเสมอภาคในการกระทำแล้วก็ตกลงใจร่วมกัน

 

ผู้สื่อข่าว: จากกระแสเรียกร้องของประชาชนในช่วงนี้ ที่ต้องการให้ยกระดับตอบโต้ทางกัมพูชา ด้วยการปราบปรามแก๊ง Call Center หรืออาชญากรรมข้ามชาติ เช่นการตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ทางกองทัพมีความเห็นอย่างไร?

 

พล.ท. บุญสิน: ก็เห็นด้วยอยู่แล้วครับ สิ่งที่มันเป็นอบายมุขมันไม่ดี ถ้ารัฐบาลไทยกับกัมพูชาร่วมมือกัน ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดี มันเป็นอบายมุขแล้วก็หลอกลวงคนไทย การเล่นการพนันต่าง ๆ พวกนี้ มันก็จะไม่เป็นผลดีต่อประชาชนคนไทยอยู่แล้วครับ บางอย่างมันก็จะมีอาชญากรรมตามมา

 

ผู้สื่อข่าว: จะใช้โอกาสนี้ในการยกระดับมาตรการหรือไม่?

 

พล.ท. บุญสิน: ก็ขึ้นอยู่กับทางนโยบายของรัฐบาลครับ มันเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย มันต้องคุยกันแล้วก็อาจจะต้องตั้งคณะทำงานร่วมของทั้งสองประเทศ ถ้ามีความจริงใจต่อกัน ซึ่งผมว่าอยู่ที่ความจริงจังและจริงใจในการแก้ปัญหาของทั้งสองฝ่ายมากกว่าครับ

 

ผู้สื่อข่าว: ทางกองทัพมีอะไรอยากจะสื่อสารไปยังฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ ในภาวะสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายทางการเมือง?

 

พล.ท. บุญสิน: ก็ขอให้ทางรัฐบาลมีความมุ่งมั่นนะครับ มุ่งมั่นรักษาผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก แล้วก็ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา มหากษัตริย์ และประชาชนเป็นหลัก และดำเนินการแก้ไขปัญหาทุกอย่างขอให้ราบรื่น ส่วนกองทัพเองนั้น ตามที่ผู้บัญชาการทหารบกให้แนวทางมาแล้วว่า พวกเรานั้นยึดถือภารกิจหน้าที่ที่เรามีอยู่แล้ว ตามกรอบรัฐธรรมนูญในการปกป้องอธิปไตยของชาติ เราก็จะดำเนินรูปแบบหรือการปฏิบัติทุกวิถีทางในงานที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ

 

ผู้สื่อข่าว: อยากสื่อสารอะไรถึงประชาชนไหมครับ สถานการณ์ตอนนี้ครับ?

 

พล.ท. บุญสิน: ก็ขอให้พี่น้องคนไทย ประชาชนทุกหมู่เหล่า เชื้อชาติ ศาสนา รวมถึงผู้ที่มาอาศัยในพระบรมโพธิสมภารของประเทศไทยภายใต้ร่มพระบารมี ให้มีความรักความสามัคคีและมุ่งมั่นผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาและมีความเป็นหนึ่งเดียว อย่าทะเลาะเบาะแว้งหรือสร้างเงื่อนไขให้เกิดความอ่อนแอ แตกความสามัคคีของคนในชาติ 

 

ทั่วโลกหรือประเทศข้างเคียง กำลังมองพวกเราอยู่ ก็ขอให้พวกเราได้ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ

 

ผู้สื่อข่าว: อยากฝากอะไรถึงกำลังพลที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงกำลังพลที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉิน ที่ท่านแม่ทัพภาคที่ 2 จะเดินทางไปเยี่ยมด้วย?

 

พล.ท. บุญสิน: เป็นห่วงเขาตลอดอยู่แล้วครับ ตั้งแต่ได้ทราบเรื่องเฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉินก็ติดตามตลอด ก็ดีใจที่เขาทั้งหมด 8 นายนั้นปลอดภัย ก็เป็นเครื่องลงกระแทกนะครับ ถือว่าโชคดี เครื่องก็ทำงานหนัก พวกเราก็ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ทั้งนักบินแล้วก็กำลังพล ผมจะต้องรีบไปดูแลเขาแล้วก็ดูแลครอบครัวด้วย อันนั้นเป็นหน้าที่อยู่แล้ว และขอบคุณในการเสียสละของทางทั้งนักบินแล้วก็ลูกน้องที่ปฏิบัติหน้าที่ แทนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ครับ

 

ผู้สื่อข่าว: ตัวท่านแม่ทัพภาคที่ 2 มีความหวั่นไหวหรือไม่ต่อท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่พยายามรุกในพื้นที่สื่อ หรือว่าพยายามเล่นเกมกลยุทธ์ต่างๆ?

 

พล.ท. บุญสิน: ผมไม่หวั่นไหวอะไรครับ ไม่เคยหวั่นไหว ผมรู้ว่าอะไรคืออะไร ผมก็ทำหน้าที่ของผม อะไรที่มันรุกล้ำในสิ่งที่ผมต้องป้องกันอธิปไตยนั้น ก็เป็นหน้าที่ของผม เขาจะเล่นเกมนั้นก็เป็นเรื่องของการเมืองที่ต้องไปว่ากัน ระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศครับ

 

ผู้สื่อข่าว: หากถอดหมวกแม่ทัพลง ในฐานะที่เป็นคนไทย และเป็นลูกอีสาน อยากให้พูดแทนใจไปถึงพี่น้องประชาชน สำหรับเหตุการณ์ตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชาที่เกิดขึ้น?

 

พล.ท. บุญสิน: จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าผมเป็นพี่น้องประชาชน พลเมืองคนไทยคนหนึ่ง ผมจะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่ผมมีหน้าที่ ณ ห้วงเวลานี้ จะทำอะไรก็แล้วแต่ที่จะช่วยเหลือประเทศชาติได้ จะทำเพื่อไม่ให้ดินแดนนี้ ผืนดินผืนนี้ ต้องเสียดินแดนอีก ด้วยสองมือ สองเท้า แล้วก็หนึ่งสมอง แล้วก็ทรัพยากรที่มีอยู่เท่าที่ทำได้ในสิ่งที่ผมมี ณ ปัจจุบัน จะทำให้ดีที่สุดครับ

 

ผู้สื่อข่าว: อันนี้คือความมุ่งมั่นหลักของภารกิจในช่วงสุดท้ายก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ?

 

พล.ท. บุญสิน: ครับ หลังจากที่ผมเกษียณไปผมก็เป็นพลเมืองคนหนึ่ง แล้วก็จะเป็นเหมือนพี่น้องที่มีความมุ่งมั่นในการที่จะต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน ผมจะเป็นหนึ่งในนั้นแล้วก็เป็นหนึ่งแรงที่จะช่วยเขา เช่นที่พวกเขาช่วยผมอยู่ในปัจจุบันนี้

 

ผู้สื่อข่าว: คำว่า ‘ด้วยชีวิต’ ในความรู้สึกของแม่ทัพภาคที่ 2 รู้สึกอย่างไรกับการที่เราจะสละชีพเพื่อชาติหรือปกป้องอธิปไตยด้วยชีวิต?

 

พล.ท. บุญสิน: มันเป็นเรื่องที่ผมมุ่งมั่นอยู่แล้วครับ ไม่งั้นผมคงไม่มาเป็นทหาร ไม่มาสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร 

 

คำว่าด้วยชีวิตเนี่ย เป็นคำปฏิญาณตนต่อหน้าเสด็จปู่พระปิยมหาราช ก่อนไปพักทุกสัปดาห์ของนักเรียนในร้อยอยู่แล้ว “ข้าพุทธเจ้าจะรักษามรดกของพระองค์ท่านไว้ด้วยชีวิต” หรือ “ไว้ด้วยเลือด” สองคำนี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ 

 

ที่ผ่านมาผมก็ไปทำงาน ผมก็แลกอย่างนี้มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นที่ภาคใต้ คือ ถ้าเราไม่ทำจะให้ใครทำ มันเป็นหน้าที่ของเราแล้วก็พร้อมอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นผม หรือว่าลูกน้องไปจนถึงน้องๆ พลทหารทุกคน ก็เป็นเช่นผมนะ แต่ว่าความเป็นผู้นำ ผมต้องพาเขาทำ แล้วก็รับผิดชอบชีวิตพวกเขาด้วย รับผิดชอบสิ่งที่พวกเขาทำ ว่าเขาทำถูกต้องแล้ว เหมือนที่ผมได้พูดไว้ที่ปราสาทตาเมือนธมครับ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising