ประเด็นร้อนที่ คิง เพาเวอร์ ส่งหนังสือถึง บมจ.ท่าอากาศยานไทย เพื่อยกเลิก 3 สัญญา Duty Free ล่าสุดในวันนี้ AOT มีกำหนดหารือร่วมกับ คิง เพาเวอร์ เพื่อทำความเข้าใจและเคลียร์เนื้อหาของหนังสือยกเลิกสัญญา
ปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) AOT วานนี้ (16 มิถุนายน) อนุมัติแนวทางในการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) โดยแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ระหว่างบริษัทฯ กับบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ในพื้นที่ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT จำนวน 3 สัญญา ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 17% ของรายได้รวมของ AOT ในปี 2567 ที่ AOT มีรายได้รวมอยู่ประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท
ได้แก่ สัญญา Duty Free ในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาท่าอากาศยานดอนเมือง และอีกหนึ่งสัญญาเป็นสัญญา Duty Free ภูมิภาคในพื้นที่ท่าอากาศยานในภูมิภาค ได้แก่ ภูเก็ตกับเชียงใหม่ และจ้างที่ปรึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งคาดว่าจะมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาดังกล่าวได้ภายใน 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ เพื่อศึกษาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาสัญญา Duty Free กับ คิง เพาเวอร์ โดยที่ปรึกษาจะศึกษาประเด็นด้านกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การเงิน และการบริหารธุรกิจ เพื่อวิเคราะห์ข้อจำกัดของสัญญาเดิม รวมถึงเสนอแนวทางที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 60 วัน และนำเสนอต่อบอร์ด AOT ในช่วงประมาณเดือนสิงหาคมนี้
โดยความเป็นไปได้ทั้งใน 3 แนวทาง คือ คงสัญญาเดิม ปรับสัญญาให้เหมาะสม หรือยกเลิกสัญญา ซึ่งจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น AOT เป็นสำคัญ
ที่บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ส่งหนังสือมายัง AOT ซึ่งในหนังสือที่ส่งมาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา แม้จะระบุในหัวข้อเรื่องของหนังสือที่ส่งมาจะเป็นการขอเจรจาแนวทางการยกเลิกสัญญา Duty Free กับ AOT แต่เมื่ออ่านรายละเอียดเนื้อหาของหนังสือไม่ได้มีการระบุถึงการขอยกเลิกสัญญาแต่อย่างใด แต่ระบุเนื้อหาว่าต้องขอเจรจาปรับสัญญา Duty Free กับ AOT
อีกทั้งในช่วงบ่ายวันนี้ (17 มิถุนายน) ตัวแทนผู้บริหารระดับสูงของ AOT จะมีการนัดหารือร่วมกับตัวแทนของผู้บริหารของ คิง เพาเวอร์ เพื่อทำความเข้าใจและเคลียร์เนื้อหาทำความเข้าใจของหนังสือที่ คิง เพาเวอร์ ส่งมายัง AOT เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำคัญสำหรับให้คณะทำงานที่ AOT แต่งตั้งขึ้นนำไปใช้ในการประกอบการทำงาน
ทั้งนี้ AOT จะหารือร่วมกับ คิง เพาเวอร์ ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ค่าตอบแทนที่ คิง เพาเวอร์ ค้างชำระอยู่นั้น ยังไม่เกินวงเงินค้ำประกัน (Bank Guarantee) ที่ KPD วางไว้เป็นหลักประกันตามหลักเกณฑ์ในสัญญา ซึ่งถือเป็นหลักประกันทางการเงินของคู่สัญญาในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด
โดยขอยืนยันว่าบริษัทฯ ยังมีสถานะทางการเงินมั่นคงแข็งแรง และยังมีแผนหารายได้เพิ่มจากแหล่งอื่นๆ ตามแผนงานที่วางไว้