วันนี้ (11 มิถุนายน) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า สส. 21 คน ของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีการลงชื่อให้ปรับรัฐมนตรีของพรรคออกโดยมีภาพถ่ายยืนยันเป็นภาพเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งวันดังกล่าวมีการรับประทานอาหารร่วมกัน ส่วนที่ สส. ชุมพร ทั้ง 3 คนเปลี่ยนใจ ถือเป็นเอกสิทธิ์ไม่ว่ากัน แต่จะมาบอกว่าไม่ได้เซ็นไม่ได้ เพราะเป็นการเซ็นแล้วมาตัดสินใจทีหลังว่าไม่เอาด้วย
ส่วนกรณีที่อ้างว่า สส. คนอื่นที่มีลายเซ็นไม่ทราบเรื่อง สุชาติกล่าวว่า สื่อทุกสำนักได้โทรไปถาม 18 สส. ก็ยืนยันว่าเป็นลายมือชื่อของตนเอง ยืนยันทั้ง สส. 18 คนยังเหนียวแน่นอยู่ในแนวทางเดียวกัน
สุชาติยังชี้แจงถึงกรณีที่ เอกนัฏ พร้อมพันธ์ุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โทรมาหาเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน จำนวน 2 ครั้ง แต่ไม่ได้รับโทรศัพท์ ว่า มีเพื่อน สส.บอกว่าเอกนัฏจะคุยเรื่องปัญหาของพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยทั้งชาติ เพื่อจับมือกันเอาพีระพันธ์ุออกจากตำแหน่ง
ที่ตัดสินใจไม่รับสายเพราะไม่ทราบว่าเอกนัฏจะมาไม้ไหน คิดอะไรอยู่ แต่หลังเกิดเรื่องตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน เอกนัฏไม่เคยโทรศัพท์หา
ส่วนหลังจากนี้จะอยู่กันภายในพรรคอย่างไรต่อไป สุชาติกล่าวว่า “ผมพูดมาตลอดว่าอยากให้จากกันด้วยดีไม่อยากให้สัมภาษณ์ไปมา มันเป็นเรื่องภายในบ้าน ใครอยู่ก็อยู่ ใครไม่อยู่ก็ช่วยให้ขับออกตามรัฐธรรมนูญ”
ส่วนที่มีการแก้ไขข้อบังคับพรรคที่ให้พ้นสมาชิกทันที จากกรณีฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น หรือกระทำการใดที่ทำให้เกิดความแตกแยกในพรรคการเมืองนั้น สุชาติกล่าวว่า สิ่งที่พรรคทำขึ้นเพื่อล็อกตัว สส. ไม่ให้ไปไหน
แต่อย่าลืมว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญใหญ่กว่าข้อบังคับพรรค รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าการพ้นสมาชิกพรรคต้องหาสังกัดพรรคใหม่ภายใน 30 วัน และการแก้ไขข้อบังคับพรรค สส.ส่วนใหญ่ก็ไม่รู้เรื่อง เป็นการทำกันเองของคณะกรรมการบริหารพรรค แม้แต่ เกรียงยศ สุดลาภา สส. แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคก็ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเพราะไม่ได้รับเชิญให้เข้าประชุม พร้อมยอมรับว่า การทำข้อบังคับใหม่เพื่อเล่นงานตนว่าฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าพรรคไม่ขับออกจะอยู่กันอย่างไร สุชาติกล่าวว่า “ก็อยู่กันแบบนี้ เพราะผมเป็น สส. ที่ประชาชนเลือกมา ผมจะไม่ร่วมกิจกรรมของพรรค เปรียบเสมือนมีบ้านให้เช่าและคนมาเช่าไม่อยากอยู่ก็ต้องให้เขาออก ไม่ใช่เอาสายยู (กุญแจ) มาคล้องหน้าบ้านไม่ให้เขาออก มันก็ไม่ถูก”
สุชาติกล่าวว่า เราเดินมาไกลแล้ว ส่วนกรณีที่คณะทำงานชุดสุดซอยของเอกนัฏ ที่มีชุดเก็บตามหลังนั้น ตนไม่อยากพูดเรื่องนี้ และเมื่อฟังจากที่เอกนัฏให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ที่ใส่จนตนเป็นผู้ร้าย
“เขารู้ไหมว่าชุดสุดซอยที่ไล่จับคนจีน แต่มีอีกชุดหนึ่งตามมาเก็บ คนที่ถูกเก็บเขามาขอพบผม เพราะเห็นว่าอยู่พรรคเดียวกัน ผมก็บอกว่าไม่อยากยุ่งเพราะจะหาว่าไปกลั่นแกล้ง จึงแนะนำให้ไปแจ้งความ ผมไม่ทราบว่าได้ไปร้องหรือไม่ แต่หากไปร้องก็อาจจะมีความผิดด้วยว่าให้สินบนเจ้าหน้าที่” สุชาติกล่าว
สุชาติยืนยันว่า พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส. นครศรีธรรมราช ยังอยู่กับกลุ่มตนถึงแม้สส.ชุมพรจะถอนตัว และถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้เสียเครดิตไปทั้งกลุ่ม ยืนยันว่า หนังสือที่ยื่นถึงแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ผู้ใหญ่รับทราบว่าเราสนับสนุนรัฐบาล และอยากให้รู้ว่าพวกเราอยู่แบบอึดอัด ซึ่งในเอกสารยืนยันชัดเจน ห่วงเรื่องที่พีระพันธ์ุถูกตรวจสอบแล้วไม่ชี้แจง ถ้าเป็นจริงตามที่ถูกร้องก็จะกระทบรัฐบาล