×

กต. ยืนยัน ให้อำนาจกองทัพคุมเปิด-ปิด จุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาปฏิเสธปรับกำลังทหารในแนวทางปฏิบัติเดิมก่อนขัดแย้ง

07.06.2025
  • LOADING...
จุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา

นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีสถานการณ์ขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา โดยยืนยันถึงกรณีเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ว่าเป็นการป้องกันตนเองและปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเหมาะสม ได้สัดส่วนและสอดคล้องกฎหมายระหว่างประเทศ

 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ภายหลังเกิดเหตุ ฝ่ายไทยเน้นย้ำการใช้ความอดทนอดกลั้น และเรียกร้องกัมพูชาให้ลดความตึงเครียด และจำกัดความขัดแย้งให้อยู่เพียงจุดเกิดเหตุ โดยมีการพูดคุยทั้งระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกองทัพบกของทั้งสองประเทศ บนพื้นฐานของความสุจริตใจ และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและกัมพูชา ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านและสมาชิกอาเซียน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้แก้ไขสถานการณ์ด้วยสันติวิธี โดยผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ได้พบหารือกับ พล.อ. เตีย เซยฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่ค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งฝ่ายไทยย้ำความจำเป็นในการลดระดับความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน และเสนอให้มีการปรับกำลังทหาร ให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติเดิมก่อนเกิดเหตุขัดแย้ง เพื่อลดโอกาสการปะทะ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ

 

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธทันที และยังมีการเสริมกำลังทหารในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา ปี 2543 (MOU43) บนพื้นฐานการเจรจาแบบสันติวิธี

 

ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดและทำให้สถานการณ์ในพื้นที่มีความเปราะบางมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้เห็นถึงการขาดเจตนารมณ์และความจริงใจ ที่จะร่วมมือกับไทยในการลดและระงับความตึงเครียดที่มีอยู่เดิม และทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ

 

ดังนั้น ตามมติของที่ประชุมสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยแก่ประชาชนไทยตามแนวชายแดน ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการเปิดปิดจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา โดยที่ประชุม สมช. ได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 1 และ 2 เป็นผู้กำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่จำเป็นและเหมาะสมในการผ่านแดนบริเวณจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งความเข้มข้นของมาตรการ จะเป็นไปตามระดับความตึงเครียดของสถานการณ์อันเกิดจากความร่วมมือของฝ่ายกัมพูชาในการแก้ไขปัญหา

 

“ขอย้ำว่า การดำเนินการของไทย มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรักษาความปลอดภัยของทั้งประชาชนไทยและกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน โดยฝ่ายไทยจะคำนึงและระมัดระวังไม่ให้มาตรการดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการค้าขายและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองประเทศ รวมทั้งด้านมนุษยธรรม”

 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยย้ำข้อเรียกร้องกัมพูชา ให้ลดระดับความตึงเครียดตลอดแนวชายแดน เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามโดยไม่จำเป็น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อประชาชนตามแนวชายแดนของทั้งสองฝ่าย

 

ทั้งนี้ ไทยยืนยันความพร้อมใช้กลไกทวิภาคี โดยเฉพาะการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ รวมถึงกลไกทวิภาคีอื่นๆ ที่มีอยู่ เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ บนพื้นฐานความเคารพและความจริงใจต่อกัน เพื่อให้ชายแดนไทย-กัมพูชากลับไปสู่ความสงบสุข เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ

 

ทางด้าน พ.อ.หญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ใช้ความอดทนและพยายามใช้การเจรจาโดยสันติวิธีมาโดยตลอด โดยมีการสั่งหน่วยในพื้นที่ให้เฝ้าระวังไม่ใช่ความรุนแรง แต่ความพยายามที่ผ่านมาไม่ได้รับการตอบสนองในทางบวก จึงจำเป็นต้องมีการปรับมาตรการ

 

ขณะที่ พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกเปิดเผยว่า ได้ให้อำนาจกองกำลังบูรพาในการควบคุมการเปิดปิดจุดผ่านแดน ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการ ยังคำนึงถึงผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและกิจกรรมในพื้นที่ชายแดน โดยหลักๆ มีขั้นตอนอยู่ 4 ระดับ ได้แก่

 

  1. จำกัดคนเข้า-ออกชายแดน คัดกรองผู้ไม่มีความจำเป็น เช่น กลุ่มคนไปเล่นการพนันหรือทำผิดกฎหมายต่างๆ ส่วนอื่นๆ เจ้าหน้าที่จะพิจารณา ยังสามารถเข้าออกได้ เช่น นักเรียนนักศึกษา หรือผู้ที่ต้องเดินทางเข้ามารักษาพยาบาลในไทย
  2. การควบคุมเรื่องเวลา กำหนดช่วงเวลา อาจไม่ได้เปิดตลอด หรือลดระยะเวลาให้สั้นลง เท่าที่จำเป็น หรือพิจารณาตามความจำเป็น
  3. บางจุดที่มีการทำผิดกฎหมายบ่อยๆ และไม่จำเป็นอาจต้องพิจารณาปิดไป โดยคำนึงถึงวิถีชีวิตประชาชนในพื้นที่ชายแดน
  4. ปิดด่านทุกจุดตลอดแนวชายแดน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising