วันนี้ (3 มิถุนายน) เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงปัญหาภายในพรรคว่า ได้มีการพูดคุยกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ภายในพรรคมาโดยตลอด และเชื่อว่าสามารถพูดคุยแก้ไขปัญหากันได้ สมาชิกในพรรคยังคงอยู่กันอย่างเหนียวแน่น
ส่วนภาพถ่ายการรับประทานอาหารระหว่าง สส. พรรค กับ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรค ที่ปรากฏเป็นข่าว เอกนัฏเผยว่า สส. ที่ได้พูดคุยกับตนยืนยันว่า เป็นการไปกินข้าวกันเฉยๆ และก่อนหน้านี้ก็มีการปฏิเสธข่าวลือเรื่องการย้ายพรรคไปแล้ว ตนคิดว่าเป็นการเข้าใจผิด ภาพที่ปรากฏเป็นเพียงการไปกินข้าว แม้กระทั่งตนเองก็มี สส. มากินข้าวด้วย แต่ไม่เคยเผยแพร่ภาพออกไป และเข้าใจว่าพรรคการเมืองเป็นเรื่องปกติที่อาจมีสิ่งที่คาใจกันบ้าง แต่สำหรับตนพร้อมเปิดรับฟังอยู่แล้ว
สำหรับกระแสกดดัน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค เอกนัฏระบุว่า ตำแหน่งของพีระพันธุ์เป็นตำแหน่งที่สูง ทั้งหัวหน้าพรรคและรองนายกรัฐมนตรี ย่อมมีการกดดันเป็นธรรมดา ซึ่งการทำงานหลายครั้งต้องประสบกับความท้าทาย และเชื่อว่าพีระพันธุ์เจอปัญหาแล้วไม่ค่อยพูด แต่สู้งานอย่างเดียว และจะสามารถชี้แจงคดีได้ทั้งหมด เท่าที่พูดคุยก็พร้อมที่จะไปชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีที่มีชื่อตนติดอยู่ด้วยนั้น เอกนัฏระบุว่า ขณะนี้ยังคงเป็นรัฐมนตรีอยู่ และตราบใดที่ยังอยู่ในตำแหน่งก็จะทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งอำนาจการปรับคณะรัฐมนตรีเป็นของนายกรัฐมนตรี
เอกนัฏยืนยันว่า ยังไม่มีการส่งสัญญาณเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีจากนายกรัฐมนตรี ทั้งพีระพันธุ์และตนเองยังไม่ได้รับการส่งสัญญาณใดๆ และที่ผ่านมาก็ยืนยันว่าทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรีได้เป็นอย่างดี ทุกนโยบายนำไปปฏิบัติและให้การสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ ทำงานกันด้วยดีมาโดยตลอด ไม่เคยมีปัญหาใดๆ
ส่วนการเผยแพร่ประกาศข้อบังคับการพ้นสมาชิกภาพของพรรค และการสร้างความแตกแยก ที่มีข่าวเชื่อมโยงกับกรณีของ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้น เอกนัฏชี้แจงว่า การแก้ไขข้อบังคับพรรคได้ดำเนินการตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากมีการประชุมใหญ่พรรค เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูก เพราะตั้งแต่ก่อตั้งพรรค ระเบียบพรรคยังหลวมอยู่ จึงพยายามปรับแก้ให้มีความชัดเจนและยึดโยงกับรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าไม่ได้มีนัยอะไร และเป็นการประชุมใหญ่ปกติทุกปี
ทั้งนี้ เอกนัฏยอมรับว่า ยังไม่ได้เคลียร์ใจกับสุชาติแต่อย่างใด และไม่แน่ว่าอาจจะได้พูดคุยกันในวันนี้