วันนี้ (27 พฤษภาคม) พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุด เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวเพียงแค่ 10,028 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้เร่งรัด ว่า เรื่องนี้ตนได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมาย นำข้อเท็จจริงมาดูในรายละเอียดให้หมด ฉะนั้นขอดูเรื่องย้อนหลังก่อน
ส่วนการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาใหม่เพื่อคำนวณค่าเสียหาย จะใช้ระยะเวลากี่วันนั้นขอให้ฝ่ายกฎหมายตรวจดูข้อเท็จจริงก่อน
ส่วนทรัพย์สินของยิ่งลักษณ์ที่เคยยึดทรัพย์ไว้ก่อนหน้านี้จะต้องนำมาพิจารณาใหม่หรือไม่ พิชัยกล่าวว่า ตนยังไม่รู้ข้อเท็จจริง ส่วนที่อายัดไว้เท่าใดนั้นทราบเพียงแต่ในข่าวเท่านั้น ซึ่งมีทั้งอายัดแล้วและจำหน่ายแล้ว แต่เรื่องอื่นๆ ยังไม่ทราบ ขอหารือฝ่ายกฎหมายก่อน
ส่วนกรณีที่ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาระบุว่าการคำนวณราคาข้าวไม่เหมือนเดิมจึงจำเป็นต้องคำนวณค่าเสียหายใหม่ก็ต้องลงไปดู
ขณะที่ เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเพื่อคำนวณค่าชดเชยใหม่ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ได้รับเรื่องอะไร
ด้าน ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คดีนี้ศาลได้ระบุว่าคำสั่งของกระทรวงการคลังที่ให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาท ไม่ชอบ จึงให้เพิกถอนคำสั่ง ซึ่งหมายความว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ ยกเลิกคำสั่งเดิม เพื่อดำเนินการใหม่ และต้องมีคณะกรรมการเข้าไปดูแลความเสียหาย เพราะคำสั่งฉบับเก่าผ่านมาหลายปีแล้ว ศาลตัดสินตั้งแต่ปี 2566 ฉะนั้นเป็นเรื่องที่ทนายความต้องไปดูว่าคณะกรรมการบังคับคดีของกระทรวงการคลังในเวลานั้น เขาคิดค่าเสียหายอย่างไร และมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว ซึ่งตนเองไม่ทราบรายละเอียด
ส่วนวงเงินค่าเสียหาย คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นใหม่ต้องคำนวณค่าเสียหายเพราะมีข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การขายข้าว สำนวน และ คำบังคับคดีในขณะนั้น ซึ่งเป็นเรื่องรายละเอียด รวมถึงทรัพย์สินของยิ่งลักษณ์ที่มีการอายัดไปแล้วนั้นก็ต้องดู ว่าถึงปัจจุบันมีความเสียหายเท่าไร และรัฐได้เงินไปแล้วเท่าไร ต้องไปดูทั้งหมด
ชูศักดิ์ระบุด้วยว่า ตามคำพิพากษาในข้อ 3 ระบุว่าให้กระทรวงการคลังดำเนินการทำคำสั่งใหม่ภายใน 60 วัน