วันนี้ (27 พฤษภาคม) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการเป็นประธานอำนวยพรผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ถึงประเด็นการเมืองที่ กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. ยื่นสอบจริยธรรม อนุทินเดินฝ่าออกจากวงสัมภาษณ์ทันทีพร้อมระบุว่า ที่นี่สุวรรณภูมิ มางานบุญไม่คุยเรื่องงานบาป
ผู้สื่อข่าวจึงพยายามมาดักสัมภาษณ์หน้าประตูทางออกสนามบินว่า ทางฝ่ายของกุสุมาลวตีมีท่าทีแข็งกร้าว ว่าจะทำให้อนุทินหายซ่าให้ได้ อนุทินกล่าวว่า ทุกอย่างพอมันเข้ากระบวนการ เราก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ มีขั้นตอนของมันอยู่ เราไม่ควรไปชี้นำอะไร
ส่วนที่มีสำนักข่าวหนึ่งออกมาวิเคราะห์การเมืองว่า ภายหลังการปรับคณะรัฐมนตรี หากผลักพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจะมีทฤษฎีอกแตก สส. ส่วนหนึ่งของพรรคภูมิใจไทยไปสังกัดพรรคใหม่และร่วมรัฐบาลทันที อนุทินระบุว่า คนที่ทำข่าวก็มีหน้าที่วิเคราะห์ไปเรื่อย การวิเคราะห์ก็มีฉากทัศน์ที่ดีที่สุด กับที่แย่ที่สุด เป็นเรื่องปกติ เราไปห้ามเขาไม่ได้ แต่คนที่รู้เรื่องที่สุดคือคนที่ทำงานอยู่ ที่เป็นคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีก็มีความสมัครสมานสามัคคีกันดี เมื่อคืนยังมีรายงานเรื่องเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติจากฝนและน้ำท่วม
ส่วนในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยทฤษฎีอกแตกพาภูมิใจไทยเป็นสองฝั่งเป็นไปได้หรือไม่ อนุทินย้อนถามว่า เคยไหมล่ะ ผ่าแล้วมีแต่ใหญ่ขึ้น ไม่ได้กังวลอะไร ภูมิใจไทยไม่เคยเล็กลง มีแต่ใหญ่ขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องงบประมาณ 4 กระทรวงของพรรคภูมิใจไทยมากที่สุด อนุทินระบุว่าเป็นกระทรวงศึกษาธิการ รองลงมาคือกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงแรงงาน ประมาณ 8 แสนล้านบาท นึกว่าล้านล้านบาท ปีนี้ลดลงมาหน่อย ไม่เป็นไร เพราะมีบางหน่วยงานที่แยกออกไป งบไม่มาผ่านทางกระทรวงแต่ก็ถือว่าเยอะแล้ว บริหารจัดการได้เพราะเราทำมากับมือทุกกระทรวง วางแผนและเตรียมการการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าขาดเหลืออะไรก็ไปขอท่านนายกรัฐมนตรี หากมีความจำเป็นอะไรเร่งด่วน นายกรัฐมนตรีถืองบกลางอยู่ หากมีความฉุกเฉินนายกรัฐมนตรีก็ให้ความสนับสนุนมาโดยตลอด