นับตั้งแต่ครั้งศึกชิงชัยทำเนียบขาว พบข้อมูลการย้ายถิ่นฐานในสหรัฐมากขึ้น โดยโปรตุเกสมาแรงอันดับ 1 ใน 10 จุดหมายย้ายประเทศของชาวอเมริกัน เมื่อเงาทรัมป์ผลักผู้คนวางแผนย้ายออกจากบ้านเกิด
ตามผลสำรวจชาวอเมริกัน 116,363 คนที่ต้องการออกจากสหรัฐอเมริกาภายในปี 2024 ซึ่งจัดทำโดย Expatsi ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดทัวร์ย้ายถิ่นฐานและทรัพยากรสำหรับชาวต่างชาติ ที่จะใช้เกณฑ์การพิจารณาจากความชอบในไลฟ์สไตล์ (เช่น สภาพอากาศและนโยบายในท้องถิ่น) แผนในอนาคต (เช่น การศึกษาหรือการทำงาน) ฐานะทางการเงิน และปัจจัยอื่นๆ
ผู้ตอบแบบสำรวจจะถูกถามเกี่ยวกับประเทศที่พวกเขาสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมมากที่สุด พบว่า ประเทศที่ผู้ตอบแบบสำรวจขอมากที่สุด ได้แก่ 1.โปรตุเกส 2.สเปน 3.สหราชอาณาจักร 4.แคนาดา 5.อิตาลี 6.ไอร์แลนด์ 7.ฝรั่งเศส 8.เม็กซิโก 9.นิวซีแลนด์ 10.คอสตาริกา
“โปรตุเกสเป็นประเทศที่บริษัทให้คำแนะนำมากที่สุดโดยพิจารณาจากความชอบที่เลือกในการประเมิน รองลงมาคือฝรั่งเศส สเปน กรีซ และสวิตเซอร์แลนด์”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ทำไมคนรวยอเมริกันเลือกหันไปเปิดบัญชีธนาคารสวิส ซื้อบ้านหลังที่ 2 ที่ยุโรป เมื่อยุคทรัมป์ไม่มีอะไรแน่นอน
- ‘สหราชอาณาจักร’ กำลังจะเป็นประเทศที่เศรษฐกิจย่ำแย่ที่สุดในกลุ่มประเทศร่ำรวยในปีหน้า ตามรอย ‘ผู้ป่วยแห่งยุโรป’ อย่างเยอรมนี
- ‘หรู’ ไม่ใช่แค่คนรวย! คนไทย 1 ใน 3 ใช้จ่ายเกินตัวเพื่อไลฟ์สไตล์หรูหรา ‘อยากให้คนยอมรับ-อยากโดดเด่น’ คือเหตุผลที่ทำให้ต้องถีบตัวเองขึ้นมาติดแกลม
เหตุใดชาวอเมริกันจึงอยากย้ายไปอยู่ต่างประเทศ
จากผลสำรวจ พบว่า เหตุผลหลักที่ชาวอเมริกันต้องการย้ายออกจากสหรัฐอเมริกา คือ เพื่อการผจญภัย ความอุดมสมบูรณ์ และการเติบโต
ผู้ตอบแบบสอบถามประมาณ 56% ระบุว่า สหรัฐอเมริกามีแนวคิดอนุรักษ์นิยมเกินไป ในขณะที่ 53% รู้สึกว่าประเทศนี้แบ่งแยกกันมากเกินไป
ขณะที่ ผู้ที่อยากย้ายถิ่นฐานกว่าครึ่งหนึ่ง ระบุว่าต้องการย้ายถิ่นฐานเพื่อเสรีภาพที่มากขึ้น และเพื่อหลีกเลี่ยงภัยคุกคามจากความรุนแรงจากกฎหมายค้าอาวุธปืน ส่วนอีก 41% ระบุว่า “หวังจะประหยัดเงิน ลดค่าครองชีพในขณะที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ”
ผู้เข้าสอบ Expatsi 2 ใน 3 ราย ระบุว่า ต้องการออกจากสหรัฐอเมริกาภายในปี 2026 โดย 12% ระบุว่าหวังจะย้ายถิ่นฐานภายในหกเดือนข้างหน้า อีกว่า 30% หวังว่าจะเกษียณอายุที่ต่างประเทศ ส่วน 18% กำลังมองหาวีซ่าสำหรับผู้พลัดถิ่น และ 17% ระบุว่าจะย้ายถิ่นฐานด้วยวีซ่าสำหรับแรงงานที่มีทักษะ
ชาวอเมริกันเริ่มวางแผนย้ายประเทศมากขึ้นตั้งแต่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024
นอกจากนี้ยังพบว่า การวิเคราะห์ข้อมูลการค้นหาจาก Google ในสหรัฐอเมริกาก็สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับ “วิธีย้ายไปประเทศ” เพิ่มขึ้นอย่างมาก
โดยนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024 ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ Expatsi พุ่งสูงถึงเกือบ 51,000 รายในเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้นจากประมาณ 8,000 รายในเดือนตุลาคม กระทั่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย
ธุรกิจการย้ายไปต่างประเทศกำลังเฟื่องฟูในสหรัฐ
ความสนใจในทรัพยากรมนุษย์ของ Expatsi มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน
ตามเอกสารที่ตรวจสอบโดย CNBC Make It พบว่ารายได้ของ Expatsi เพิ่มขึ้นถึง 19,632% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากบริษัทขายแพ็กเก็จที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงทริปสำรวจการย้ายถิ่นฐาน การบริการให้คำปรึกษารายบุคคล และพบตั๋วเข้าร่วมงานต่างๆ เช่น การประชุมในซานอันโตนิโอซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันศุกร์และต่อเนื่องไปจนถึงสุดสัปดาห์ ซึ่งแขกกว่า 300 คนจะได้รับฟังจากวิทยากรเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ ตั้งแต่การขอวีซ่าและการย้ายเงินไปต่างประเทศ การเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมและการหางานในฐานะชาวต่างชาติ
“ส่งผลให้บริษัทช่วยให้ผู้คนมากกว่า 200 คนไปทัวร์ย้ายถิ่นฐานในปี 2024 โดยราว 5% ย้ายออกหมดแล้ว และอีก 25% อยู่ในขั้นตอนเอกสาร นั่นหมายความว่าพวกเขาได้ยื่นคำร้องขอวีซ่าหรือมีนัดหมายที่จะต้องยื่นแล้ว” Jen Barnett ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทกับ Brett Andrews สามีของเธอกล่าว
อีกทั้งยังให้ชุดข้อมูลอีกว่า ตั้งแต่ในปี 2022 มีผู้สนใจจำนวนมากสนใจย้ายประเทศ หลังจากที่คำตัดสิน คดี “Roe v. Wade” ซึ่งศาลสูงสุดหรือศาลฎีกาสหรัฐอเมริกา (Supreme Court of the United States: SCOTUS) พิพากษายกเลิกคำตัดสินคดีที่เคยพิพากษาเมื่อปี 2516 ว่าการทำแท้งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
ภาพ: Alexander Spatari / Getty images
อ้างอิง: