วันนี้ (24 พฤษภาคม) ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคประชาชนจัดกิจกรรมเสวนาและรับฟังความเห็นประชาชนต่อการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กรุงเทพมหานคร (กทม.)
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส. กทม. กล่าวว่า ระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา เรามีผู้ว่า กทม. ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่จะได้ยินหลายครั้งว่ามีปัญหาในการบริหารงานเรื่องของอำนาจหน้าที่ ไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ในหลายโอกาส ซึ่งพรรคประชาชนและทีม ส.ก. ของพรรค ได้รวบรวมปัญหาและออกเป็นร่าง พ.ร.บ.กรุงเทพมหานคร ฉบับใหม่ โดยตั้งใจที่จะแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กรุงเทพมหานคร ให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง
ด้านวรภพกล่าวว่า ตนในฐานะที่เป็นผู้รวบรวมปัญหาและเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.กทม.นั้น มีเรื่องที่จะแก้ไข คือ
- แก้ไขและปลดล็อกอำนาจของผู้ว่า กทม. ให้สามารถบริหารบริการสาธารณะได้ทั้งหมด ยกเว้นที่ห้ามไว้ เช่น เรื่องกองทัพ เงินตรา ศาล สัญญาระหว่างประเทศ และสร้างความยืดหยุ่น มอบอำนาจให้เอกชนเข้ามาช่วยจัดทำบริการสาธารณะ
- ปลดล็อกทางการเงินการคลังให้ กทม. สามารถกำหนดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเองได้ เช่น ค่าธรรมเนียมโรงแรม รวมถึงการกู้เงินและออกพันธบัตร หรือร่วมทุนกับเอกชน ตั้งบริษัทรัฐวิสาหกิจของ กทม. ให้สามารถจัดทำได้เอง โดยไม่ต้องขออนุญาต แค่ผ่านสภา กทม. เพื่อให้ดูแลชาว กทม. 5 ล้านคน และประชากรแฝง 3-5 ล้านคนได้
- ถ่ายโอนการกระจายอำนาจจากส่วนกลางมาไว้ที่ กทม. ให้มากขึ้นและทำได้จริง โดยกำหนดแผนขั้นตอนการกระจายอำนาจ เช่น การดูแลโรงแรม โรงงานต่างๆ
- ปรับรูปแบบองค์กรปกครองพิเศษของ กทม. ให้เป็นท้องถิ่น 2 ชั้น ชั้นบน คือ ระดับ กทม. ชั้นล่าง คือ ระดับเขต ให้ผู้บริหารระดับเขตมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน เพื่อให้สามารถดูแลประชาชนได้มากขึ้น รูปแบบจะคล้ายกับรูปแบบมหานครในต่างประเทศ เช่น โซล โตเกียว และลอนดอน
- รับรองสิทธิพลเมืองและเพิ่มการมีส่วนร่วม ให้ประชาชนสามารถเข้าชื่อ เสนอญัตติเร่งแก้ปัญหาในสภา กทม. ได้ รวมถึงให้ประชาชนสามารถเสนอโครงการและงบประมาณเข้าสภา กทม. ได้ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำงบประมาณมากขึ้น รวมถึงการทำประชามติ
ด้าน ฉัตรชัย หมอดี ส.ก. เขตบางนา กล่าวสะท้อนปัญหาการบริหารราชการ กทม. ว่า ในเรื่องระบบสาธารณูปโภค เช่น น้ำ ไฟฟ้าส่องสว่าง ระบบจราจร กทม. ไม่มีอำนาจในการบริหารหรือจัดการ ที่ผ่านมาพรรคได้เสนอผ่านสภา กทม. แล้ว แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า กทม. ไม่มีอำนาจในการออกข้อบัญญัติดังกล่าว
ณัฐชากล่าวต่อว่า จากนี้พรรคประชาชนจะเปิดรับสมัครผู้ที่สนใจลงสมัคร ส.ก. และอยู่ระหว่างคัดสรรผู้ที่จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรค โดยจะเปิดตัวพร้อมกันทั้งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ส.ก. 50 เขต และนโยบายต่างๆ ที่จะนำไปสู่การแก้ไข เป็นหมุดหมายสำคัญที่อยากให้ชาว กทม. ติดตาม
ทั้งนี้ ในส่วนผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. มีการทาบทามไว้แล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีกี่คน และทำให้คนที่ไม่ถูกคัดเลือกเสียหาย ซึ่งขณะนี้มีการทำงานร่วมกันกับพรรคแล้ว และหากคนที่ถูกทาบทามไม่ได้รับคัดเลือกลงชิงตำแหน่งก็จะอยู่ในทีมบริหารของผู้ว่าฯ พร้อมปฏิเสธเพศของผู้สมัคร ยืนยันว่ามีความเชี่ยวชาญในทุกด้าน
ส่วนตัวผู้สมัครจะสามารถสู้กระแสของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า กทม. คนปัจจุบันได้หรือไม่ ณัฐชากล่าวว่า พรรคประชาชนเป็นพรรคอันดับหนึ่งของประเทศ และ สส. กทม. ได้รับการยอมรับชนะการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 แสดงให้เห็นว่าประชาชนไว้วางใจ ซึ่งตัวบุคคลที่คัดเลือกมา ไม่ได้เป็นคู่เปรียบเทียบใดๆ แต่ตั้งใจมาทำงานให้กับประชาชน
