×

สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ จากชายที่แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อยทิ้ง สู่ฮีโร่คนใหม่ของนาโปลี

24.05.2025
  • LOADING...
สกอตต์ แม็คโทมิเนย์

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา หากพูดถึงชื่อ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ในหมู่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายคนอาจตอบกลับมาด้วยอาการครึ่งรักครึ่งระอา (กับฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอ)

 

เขาเป็นนักเตะสายเลือดท้องถิ่นที่เติบโตมากับทีมตั้งแต่วัย 5 ขวบ

 

แต่ในวันที่ยูไนเต็ดกำลังมองหาความเปลี่ยนแปลง แม็คโทมิเนย์กลับเป็นหนึ่งในชื่อแรกๆ ที่ถูกมองว่า ‘ขายได้’

 

เขาไม่ใช่คนที่มีเทคนิคจัดจ้าน ไม่ใช่นักเตะที่สร้างไฮไลต์ระดับโลก

 

แต่เขาคือคนที่ทำงานหนักเพื่อทีมอยู่เสมอ ในตำแหน่งที่บางครั้งก็ไม่ชัดเจนว่าคืออะไร

 

จากเด็กปั้นสู่กองกลางตัวตัดเกม ไปจนถึงกองหลังจำเป็นในทีมชาติสกอตแลนด์

 

ช่วงซัมเมอร์ปี 2024 เขาตัดสินใจย้ายออกจากบ้านที่เขาอยู่มาเกือบตลอดชีวิตด้วยค่าตัวเพียง 25.7 ล้านปอนด์ ไปยังดินแดนที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนนั่นคือเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี สถานที่ที่เป็นดั่งจุดเปลี่ยนสำคัญของดาวเตะวัย 28 ปี

 

การย้ายครั้งนั้นเดิมทีอาจไม่เคยเกิดขึ้น เพราะนาโปลีเล็งมิดฟิลด์คนอื่นไว้แล้ว และอีกเพียงก้าวเดียวก็จะเซ็นสัญญา

 

แต่ดีลดันมาล่มในนาทีสุดท้าย และในชั่วพริบตา แม็คโทมิเนย์ก็กลายเป็นตัวเลือกสำรองที่กลายเป็น ‘ของขวัญ’ กล่องใหญ่ของแฟนบอลในเมืองนี้

 

เขาย้ายมาท่ามกลางความสงสัยว่าจะปรับตัวได้หรือไม่กับระบบฟุตบอลอิตาลี

 

ทว่าเขากลายเป็นตัวจริงทันทีในทีมของ อันโตนิโอ คอนเต และไม่นานนักเขาก็เปลี่ยนจาก ‘มิดฟิลด์ตัวรับ’ เป็น ‘มิดฟิลด์ทะลวงไส้’ ผู้เปลี่ยนจังหวะเกมให้ทีม

 

ในฤดูกาลเดียวกับนาโปลี เขายิงไป 12 ประตูในลีก รวมถึงประตูสุดมหัศจรรย์ที่ยิงใส่กายารีในนัดชี้ชะตาแชมป์

 

ประตูนั้นไม่เพียงทำให้เขาได้ตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของเซเรียอา แต่มันเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นหนึ่งใน ‘ฮีโร่คนใหม่’ ของสโมสรไปทันที

 

ชาวเมืองเนเปิลส์เรียกเขาว่า ‘McFratm’ 

 

มาจากคำว่า McTominay + Fratm (ภาษาท้องถิ่นแปลว่าพี่ชาย)

 

เขาเป็นคนต่างถิ่นที่พยายามเรียนภาษาอิตาลีอย่างจริงจัง กินมะเขือเทศสดแทนขนม จูบตราสโมสรเมื่อยิงประตู และวิ่งเต็มที่ทุกครั้งที่คอนเตใส่ชื่อลงสนาม

 

ในสายตาแฟนบอลทั่วไป แม็คโทมิเนย์อาจไม่ได้มีพรสวรรค์ที่สุดในทีม แต่เขามีสิ่งที่แฟนบอลเนเปิลส์รักที่สุด นั่นคือความเสียสละและหัวใจที่ไม่เคยหันหลังให้เกมแม้ยามตกเป็นรอง

 

หนึ่งในเหตุผลที่เขารุ่งโรจน์กับนาโปลีได้คือระบบของ อันโตนิโอ คอนเต 

 

จากผู้เล่นที่เคยถูกจับเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับหรือแม้แต่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ วันนี้แม็คโทมิเนย์กลายเป็น ‘ตัวบุก’ ที่วิ่งเติมเข้าเขตโทษบ่อยที่สุดในเซเรียอา

 

คอนเตเปลี่ยนเขาจาก ‘คนที่เล่นเพื่อคนอื่น’ เป็น ‘คนที่คนอื่นต้องเล่นเพื่อเขา’

 

เขาเป็นเหมือน อาร์ตูโร วิดัล หรือ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ในยุคที่คุมยูเวนตุส เป็นนักเตะที่มีพลังแฝงและถูกปลดปล่อยมาในจังหวะสำคัญเสมอ

 

อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกิดขึ้นในทีมชุดนี้คือ การปรากฏตัวของคู่หูเกมรุกที่ทรงพลังอย่าง ‘แม็คโทมิเนย์ x ลูกากู’

 

หากแม็คโทมิเนย์คือพลังจากแดนกลาง, โรเมลู ลูกากู ก็คือจุดหมายปลายทางของพลังนั้น

 

ทั้งสองคนสร้างเคมีร่วมกันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นับตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าสู่ทีม โดยแม็คโทมิเนย์จะเน้นเติมเกมจากแผงมิดฟิลด์ได้อย่างดุดัน ส่วนลูกากูก็พร้อมพักบอล ปั่นป่วนแนวรับ และหาจังหวะปิดบัญชีได้เฉียบคม

 

ฤดูกาล 2024/25 จบลงด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีซของทั้งคู่ โดยลูกากูยิง 14 ประตู กับอีก 10 แอสซิสต์ (รวมถึงในโคปปา อิตาเลีย) ขณะที่แม็คโทมิเนย์ยิง 12 และจ่ายอีก 4 รวมกันแล้วพวกเขาสร้างสรรค์เกมรุกให้ทีมถึง 26 ประตู 14 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เยอะต่อการลุ้นแชมป์เซเรียอาของนาโปลีฤดูกาลนี้

 

นี่ยังไม่นับอีกหลายจังหวะที่พวกเขาประสานงานกันแบบไม่ต้องมองหน้า ลูกากูดึงกองหลังสองคนลงต่ำเพื่อให้แม็คโทมิเนย์สอดเข้ายิง หรือแม็คโทมิเนย์จ่ายบอลทะลุไลน์ให้ลูกากูหลุดเดี่ยว พวกเขาไม่ใช่แค่เล่นได้เข้าขา แต่คือการเติมเต็มกันอย่างสมบูรณ์แบบในระบบของ อันโตนิโอ คอนเต

 

สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นในเกมสำคัญใน ‘นัดปิดฤดูกาล’ ที่นาโปลีต้องชนะเพื่อการันตีแชมป์ ขณะที่อินเตอร์ มิลาน ขึ้นนำก่อนในการแข่งอีกสนาม

 

แต่แล้วในนาที 42 ของเกมกับกายารี บอลครอสจากมุมขวาลอยเข้าสู่เขตโทษ แม็คโทมิเนย์กระโดดวอลเลย์กลับหลังแบบไม่จับ ลูกบอลพุ่งเสียบตาข่ายเหมือนภาพสโลว์โมชัน

 

ช็อตนั้นทำสนามดีเอโก มาราโดนา สเตเดียม แทบระเบิด! เสียงเฮลั่นสนาม น้ำตาของแฟนบอลพรั่งพรูออกมาพร้อมกัน

 

เพราะประตูนั้นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ท้ายที่สุดนาโปลีมาบวกสกอร์เพิ่มจาก ลูกากู จนเป็นฝ่ายชนะ 2-0 และคว้าแชมป์ลีกอิตาลีได้เป็นสมัยที่ 4 ของสโมสร และครั้งแรกของแม็คโทมิเนย์ที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดในชีวิต

 

“ผมพูดไม่ออกเลย มันเหลือเชื่อมาก คุณก็รู้ว่าทุกคนในทีมต่างเสียสละเพื่อเป้าหมายนี้กันอย่างเต็มที่

 

“แฟนบอลสมควรได้รับสิ่งนี้ เพราะพวกเขาอยู่เคียงข้างเรามาตั้งแต่วันแรก และสำหรับผม การได้มาสัมผัสสิ่งนี้คือความฝันที่เป็นจริง” แม็คโทมิเนย์กล่าวหลังจบเกม

 

จากนักเตะที่ถูกมองข้าม จากคนที่แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมขายเพราะ ‘ไม่อยู่ในแผน’

 

สู่ฮีโร่ที่มีแท่นบูชาในโบสถ์แห่งหนึ่งในเนเปิลส์ มีร้านพิซซ่าตั้งธงสกอตแลนด์พร้อมข้อความว่า ‘Napoli. McTominay. Pizza. In that order.’

 

ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เขาชนะใจแฟนบอลอย่างเดียว

 

แต่เขาพิสูจน์ให้เห็นว่านักเตะธรรมดาคนหนึ่ง หากอยู่ในทีมที่ใช่ ระบบที่เหมาะสม และเมืองที่โอบรับเขาด้วยหัวใจ

 

เขาสามารถแปรพลังทั้งหมดให้กลายเป็นผลงาน และสร้างชื่อให้กลายเป็นฮีโร่ของสโมสร

 

และนี่คือเรื่องราวของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ 

 

จากคนที่โอลด์แทรฟฟอร์ดไม่ต้องการ สู่ผู้เขียนตำนานบทใหม่ที่เมืองเนเปิลส์ในสีเสื้อนาโปลี

 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising