Samsung เผยตลาดทีวีพรีเมียมโตแรงสวนกระแสเศรษฐกิจ พร้อมเปิดอินไซต์คนไทยเปลี่ยนทีวีใหม่ทุก 4 ปี แถมยังเลือกซื้อขนาดจอใหญ่ขึ้น ส่วนกลุ่มคนกำลังซื้อน้อย มีทางเลือกให้ผ่อนนานถึง 60 เดือน
ชวพจน์ เทียนทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง ล้วนมีผลทำให้กำลังซื้อของผู้คนลดลง ซึ่งพบว่าหลายคนเลือกซื้อเฉพาะสินค้าจำเป็นเท่านั้น แน่นอนว่ากลุ่มสินค้าอย่างทีวีไม่ได้อยู่ในหมวดสินค้าจำเป็น ก็ยอมรับว่าได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
ต้องยอมรับว่าประเทศไทยนั้นเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจไม่ดีมานานแล้ว ทุกๆ ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาพตลาด โดยในปีที่ผ่านมาซัมซุงได้เปิดตัว Samsung Finance+ ซึ่งเป็นนวัตกรรมสินเชื่อดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือซัมซุงได้ง่ายขึ้น ด้วยการใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวในการสมัคร โดยมีข้อเสนอสินเชื่อที่ออกแบบให้เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้า
ส่วนระยะเวลาการผ่อนเริ่มตั้งแต่ 24-60 เดือน สามารถผ่อนสินค้าราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น โดยหลังเปิดให้บริการเพียง 1 ปีครึ่ง ได้มียอดผู้ใช้บริการกว่า 1 ล้านราย เรียกได้ว่ากลยุทธ์นี้สามารถช่วยผลักดันยอดขายได้เป็นอย่างดี
ชวพจน์ ฉายภาพต่อถึงภาพรวมตลาดสินค้าทีวีในไทยมีมูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท ในปี 2567 ที่ผ่านมาความต้องการซื้อทีวีโดยรวมเริ่มกลับมาฟื้นตัว แต่ยังไม่สดใสมากนัก สวนทางกับตลาดทีวีพรีเมียมในไตรมาสแรกของปี 2568 ยังมีแนวโน้มโตต่อเนื่องหรือมากกว่า 10% ซึ่งพบว่ากำลังซื้อของลูกค้าระดับบนยังไม่หายไปและคาดว่ากลุ่มพรีเมียมจะช่วยผลักดันให้ตลาดทีวีในปีนี้เติบโตได้ 2%
“เชื่อว่าทีวียังเป็นสินค้าศูนย์กลางของบ้านและพฤติกรรมคนไทยยังมีการซื้อที่เปลี่ยนไป จากอดีตจะเปลี่ยนทีวีเครื่องใหม่ก็ต่อเมื่อเครื่องเสียเท่านั้น แต่ปัจจุบันลูกค้าเปลี่ยนทีวีใหม่ทุกๆ 3-4 ปี และจากข้อมูลอินไซต์พบว่าทุกครั้งที่ผู้บริโภคเปลี่ยนทีวีจะเลือกซื้อขนาดจอใหญ่ขึ้น และยังต้องการทีวีที่มีซอฟต์แวร์ใหม่ๆ สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart Home ต่างๆ ในบ้านได้อีกด้วย”
เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตของทีวีพรีเมียม ปีนี้ซัมซุงจึงได้เปิดตัวทีวี AI อัจฉริยะ เพื่อยกระดับประสบการณ์การรับชมทั้งภาพและเสียงแบบใหม่ มีราคาเริ่มตั้งแต่ 13,900-139,000 บาท สอดรับไปกับเป้าหมายของบริษัทที่จะไม่หยุดพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเติมตลาด สุดท้ายแล้วคาดการณ์ว่ากลยุทธ์ทั้งหมดจะช่วยให้ซัมซุงสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดทีวีเพิ่มได้อีก 2% ในปีนี้
