×

สว. สำรอง มอบดอกไม้ให้กำลังใจ DSI สู้แรงกดดันสอบสวนคดีฮั้ว สว. ชี้มีผู้เกี่ยวข้องอีกกว่า 100 ราย

โดย THE STANDARD TEAM
14.05.2025
  • LOADING...
reserve-senators-support-dsi-investigation

วันนี้ (14 พฤษภาคม) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) คณะสมาชิกวุฒิสภา (สว.) สำรอง นำโดย พล.ต.ท. คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้ามอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ DSI ท่ามกลางกระแสกดดันและพยายามลดความน่าเชื่อถือการสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว. 67)

 

การเข้าให้กำลังใจครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกหนังสือเชิญ สว. จำนวน 55 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคมนี้ 

 

ซึ่งทางคณะ สว. สำรอง มองว่าส่งผลให้ DSI ซึ่งร่วมเป็นคณะทำงานในคดีนี้ได้รับแรงกดดันจากฝ่ายตรงข้าม และยังมีกระบวนการดิสเครดิต ไม่ให้ความร่วมมือในการสอบพยานต่างๆ โดยมี ยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษก DSI เป็นผู้แทนรับมอบช่อดอกไม้

 

พล.ต.ท. คำรบ เปิดเผยถึงความไว้วางใจในการสืบสวนสอบสวนของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ซึ่งเป็นคณะทำงานร่วมระหว่าง กกต. และ DSI โดยระบุว่ามีความมั่นใจในการทำงานของชุดนี้ เนื่องจาก DSI ได้นำข้อเท็จจริงที่มีอยู่มาช่วยคลี่คลายประเด็นต่างๆ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการออกหนังสือเรียก 55 สว. มาชี้แจงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ จากข้อมูลเชื่อว่ายังมีผู้เกี่ยวข้องในคดีฮั้ว สว. อีกกว่า 100 ราย ซึ่งจะมีการดำเนินการตามมาในเร็วๆ นี้ ยืนยันมีความเชื่อมั่นในคณะอนุกรรมการชุดนี้

 

พล.ต.ท. คำรบ เชื่อว่าไม่ใช่แค่กลุ่มของตน แต่สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปย่อมมองเห็นถึงเจตนารมณ์ที่ต้องการให้การดำเนินการในส่วนนี้ล่าช้า รวมถึงทราบว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีแรงกดดันมากมาย จึงขอออกมาให้กำลังใจให้ฝ่าฟันอุปสรรค เพื่อให้ความจริงปรากฏและฟื้นฟูความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ

 

สำหรับความคืบหน้าการร้องเรียนต่อ กกต. ในประเด็นอื่นๆ พล.ต.ท. คำรบ กล่าวว่า ยังมีเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน 2-3 เรื่อง จากการร้องเรียนประมาณ 7 ฉบับ โดยเฉพาะการตั้งกรรมการไต่สวนและกรณีเลขาธิการ กกต. ที่มีผู้ร้องกล่าวหาว่าละเลยการดำเนินการเกี่ยวกับโพย ซึ่งมีคำวินิจฉัยออกมาในลักษณะว่าไม่ผิด ทั้งที่ได้แย้งไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง และตั้งข้อสังเกตว่าปัจจุบันเลขาธิการ กกต. ยังคงมาทำงานทุกวันหรือไม่ เพราะไม่เคยได้พบหรือได้รับการสื่อสารใดๆ จากท่านหลังจากได้ยื่นเรื่องไป อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้จะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าจาก กกต. ในสัปดาห์หน้า

 

ในส่วนของคดีอาญาที่ DSI รับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งครอบคลุมฐานความผิดอั้งยี่และฟอกเงิน ที่ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินจำนวนมาก พล.ต.ท. คำรบ แสดงความเชื่อมั่นในคณะพนักงานสอบสวนของ DSI จำนวน 41 นาย ซึ่งมีอธิบดี DSI เป็นหัวหน้าคณะฯ ว่าล้วนเป็นผู้มีความสามารถ และเชื่อว่าจะดำเนินการได้ด้วยดี เห็นได้จากโฆษก DSI ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่ามีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และข้อมูลในโทรศัพท์ไปมากแล้ว

 

พล.ต.ท. คำรบ ยังกล่าวถึงหนังสือฉบับล่าสุดของปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเท่าที่อ่านรายละเอียด มองว่ามีลักษณะเป็นการกระตุก เตือนเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่สอบสวนเรื่อง สว. ให้ระมัดระวัง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พร้อมให้คำแนะนำหน่วยงานในพื้นที่ในลักษณะที่ส่อว่าเป็นการอิดออด หลบหลีก หลีกเลี่ยง การอำนวยความสะดวก ทั้งที่กระบวนการรับสมัครและเลือก สว. ระดับอำเภอ กกต. ได้แต่งตั้งฝ่ายปกครองในพื้นที่เป็นเจ้าหน้าที่ กกต. ระดับอำเภอ ซึ่งมีส่วนรับผิดชอบโดยตรง 

 

และมองว่าความไม่เรียบร้อยในการเลือกเริ่มต้นตั้งแต่ระดับอำเภอ มีการรู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ จัดการนำคนมาลงสมัคร ทั้งที่ควรเป็นเรื่องลับ รวมถึงความหละหลวมในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครในบางพื้นที่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับฝ่ายปกครองโดยตรง จึงเกรงว่าหนังสือดังกล่าวอาจเป็นการพยายามกลบเกลื่อนเรื่องที่ตนเองเคยดำเนินการไปแล้ว

 

นอกจากนี้ พล.ต.ท. คำรบ ยังกล่าวถึงข้อมูลในระดับพื้นที่อำเภอ โดยเฉพาะชายแดนภาคใต้ ที่มีผู้เข้าไปกดดันจนมีผู้สมัครร้องเรียน แต่นายอำเภอผู้นั้นกลับได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นปลัดจังหวัด ขณะที่นายอำเภออีกคนในภาคอีสานที่ทำงานไม่เข้าเป้าในการเลือก สว. กลับถูกย้ายเข้าประจำที่กระทรวงฯ โดยมองว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรทำให้ความจริงในเรื่องเหล่านี้ปรากฏชัดเจน เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงและเกี่ยวข้องกับชีวิตคนไทย พร้อมเรียกร้องให้ กกต. ใช้อำนาจตามมาตรา 34 สั่งการหน่วยงานต่างๆ ให้สนับสนุนภารกิจการสืบสวนไต่สวนเรื่อง สว.

 

ในส่วนของ ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการ กกต. พล.ต.ท. คำรบ ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาส่วนตัว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งถูกเปิดเผยขึ้นจากกรณีเจ้าหน้าที่ สตง. กล่าวหาผู้บริหาร สตง. บางส่วนทุจริต แต่กลับถูกผู้ว่า สตง. แจ้งความดำเนินคดีข้อหาให้สินบน 300,000 บาท โดยมี ฐิติเชฏฐ์ ร่วมอยู่ด้วย ทำให้ ฐิติเชฏฐ์ เป็นผู้ต้องหาที่ 2 ในคดีนี้ซึ่งถูกส่งต่อไปยัง ป.ป.ช. จึงมองว่าเมื่อ ฐิติเชฏฐ์ ถูกกล่าวหาในลักษณะร่วมให้สินบนเจ้าพนักงาน การที่ท่านยังคงมีหน้าที่ต้องมาตัดสินเรื่องร้องเรียนการเลือกตั้ง สว. และเรื่องของเทศบาลต่างๆ อาจขาดความสง่างามและทำให้เกิดความไม่มั่นใจในความสุจริตเที่ยงธรรมในการตัดสิน 

 

ด้วยความสงสัยนี้ จึงได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการวุฒิสภา ตามมาตรา 17 กฎหมายการเลือกตั้ง เพื่อให้ส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการสรรหาสว. พิจารณาว่า นายฐิติเชฏฐ์ ยังมีคุณสมบัติตามมาตรา 9(4) ที่ระบุว่าต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ซึ่งต้องรอดูผลการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาต่อไป

 

ด้าน ยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รมว.ยุติธรรม ติดภารกิจราชการ จึงมอบหมายให้ตนมารับมอบช่อดอกไม้ โดยหลักการแล้ว DSI ทำงานตามพยานหลักฐานและการสืบสวนสอบสวน

 

ขณะที่ พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ โฆษก DSI ได้กล่าวขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ สว.สำรอง มอบให้ และจะนำเรียนอธิบดี DSI ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมให้รับทราบต่อไป

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising