นับตั้งแต่ MQDC ประกาศเปิดตัวโครงการ ‘Cloud 11’ ไปเมื่อต้นปี 2023 จนถึงวันนี้ งานก่อสร้างดำเนินการไปตามแผน คืบหน้าแล้วกว่า 80% ซึ่งทาง MQDC คอนเฟิร์มว่า ปลายปีนี้ Cloud 11 พื้นที่ความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกคนจะพร้อมเปิดบ้านอย่างเป็นทางการ
นอกจากจะอัปเดตความคืบหน้าเรื่องงานก่อสร้าง ยังมีเรื่องการเพิ่มการลงทุน ขยายมูลค่าโครงการอีก 3,000 ล้านบาท และการเปิดตัวพาร์ตเนอร์คนสำคัญอีกมากมายที่ THE STANDARD รู้มา จึงอยากบอกให้ทราบโดยทั่วกัน
‘Cloud 11’ โครงการมิกซ์ยูสที่สร้างขึ้นบนแนวคิด ‘Empowering Creators’ พื้นที่ความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกคน เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ตลอดจนยกระดับอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยไปสู่ระดับแนวหน้าของโลก ถือเป็น Theme Project ลำดับที่ 2 ของ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 27 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS สถานีอุดมสุข และปุณณวิถี
องศา จรรยาประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการ Cloud 11
ขยายมูลค่าโครงการสู่ 43,000 ล้านบาท
องศา จรรยาประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการ Cloud 11 เผยว่า จากการลงทุนเพิ่มเติม ทำให้ Cloud 11 ขยายมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นจากเดิม 40,000 ล้านบาท เป็น 43,000 ล้านบาท โดยส่วนแรกเพิ่มการลงทุนในส่วนโครงสร้างพื้นฐานของย่าน (District Infrastructure) เป็นมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาย่านสุขุมวิทใต้ (South Sukhumvit) ให้กลายเป็น ‘พื้นที่เขตสร้างสรรค์และนวัตกรรม’ (Creative & Innovation District) สำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ และลงทุนอีกส่วนใน Creative Facilities พื้นที่สตูดิโอและอุปกรณ์เทคโนโลยีสำหรับนักสร้างสรรค์ เป็นมูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ครบวงจร โดยการพัฒนาโครงการ Cloud 11 ทั้งหมด บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อระยะยาว (Project Finance) จากธนาคารกรุงเทพ
‘Cloud 11’ กุญแจสำคัญดัน Creative Ecosystem ไทยสู่ระดับสากล
1.2 Trillion คือมูลค่าการเติบโตของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทย คิดเป็น 7% ของ GDP เท่ากับว่า ถ้า Creative Ecosystem ของไทยแข็งแกร่งและสมบูรณ์มากขึ้นเท่าไร โอกาสที่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์จะเติบโตแบบก้าวกระโดดก็มีความเป็นไปได้มากเท่านั้น
“เป้าหมายของเราคือการสร้าง Creative Ecosystem ที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการพบปะกันของครีเอเตอร์หรือคนในวงการสร้างสรรค์ ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดไอเดีย สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ร่วมกัน ทำให้คอนเทนต์ไทยมีศักยภาพและยกระดับไปสู่ระดับโลกได้” พอล สิริสันต์ กรรมการผู้จัดการโครงการ Cloud 11 กล่าว
พอล สิริสันต์ กรรมการผู้จัดการโครงการ Cloud 11
ด้วยเหตุนี้เอง จึงจัดสรรการลงทุนเพิ่มมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ในการสร้าง ‘Creative Facilities’ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบความต้องการครีเอเตอร์และคนในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ Cloud 11 เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมครบวงจรที่ครีเอเตอร์สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มศักยภาพ
ในส่วนต้นน้ำ Cloud 11มีพื้นโซน ‘Academy’ ที่รวบรวมสถาบันการศึกษาบ่มเพาะบุคลากรด้านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ พัฒนาความสามารถ และเสริมทักษะวิชาชีพในด้านสร้างสรรค์สู่ความเป็นเลิศ โดยร่วมมือกับสถาบันชั้นนำระดับโลกอย่าง 1500 Sound Academy โดย James Fauntleroy โปรดิวเซอร์ ชาวอเมริกันจาก Hollywood มาเปิดโรงเรียนสำหรับศิลปินและนักดนตรีครั้งแรกในประเทศไทย
ต่อมาในส่วนกลางน้ำ Cloud 11 มีทั้ง ‘Creator Village’ พื้นที่สำนักงานเกรด A+ จำนวน 4 อาคาร พื้นที่รวม 70,000 ตร.ม. ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบไลฟ์สไตล์คนทำงานสร้างสรรค์ ซึ่งได้ บริษัทยักษ์ใหญ่เกาหลีในเครือ SM Entertainment และ CJ ENM มาเป็นหนึ่งในผู้เช่าที่จะเปิดสำนักงานในไทยที่นี่
Cloud 11 ยังลงทุนกับ ‘Creator Studio’ ทั้งสตูดิโอถ่ายภาพ วีดีโอ ไลฟ์สตรีม เพลง พอดแคสต์ และ ‘Production Studio’ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เครื่องมือและอุปกรณ์ครบครัน เพื่อรองรับงานคอนเทนต์ในอนาคตที่จะมีความซับซ้อนและเสมือนจริงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ Creative Co-working ที่ครีเอเตอร์เพียงนำคอมพิวเตอร์มาเสียบสาย LAN ก็สามารถตัดต่อคอนเทนต์และเรนเดอร์งานได้สะดวกรวดเร็ว โดยสตูดิโอและเวทียังได้ RIOS บริษัทผู้ออกแบบสตูดิโอชื่อดังหลายแห่งในฮอลีวูด รวมถึง Spotify Content Campus มาเป็นผู้ออกแบบ
“เราไม่ได้จำกัดพื้นที่ให้กับองค์กรในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เท่านั้น แต่เปิดโอกาสให้ทุกอุตสาหกรรม เรามองว่าทุกอุตสาหกรรมต้องทำคอนเทนต์ เพราะการตลาดคือการทำคอนเทนต์ เรามีเครดิตให้กับพาร์ตเนอร์ที่เช่าพื้นที่สามารถนำไปใช้เช่าสตูดิโอได้ จะช่วยให้ต้นทุนในการทำคอนเทนต์ของเขาลดลงและสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพมากขึ้น” พอลกล่าว
ส่วนปลายน้ำ Cloud 11 มองตัวเองเป็น Performance Stage หรือพื้นที่การแสดงผลงานและต่อยอดทางธุรกิจให้กับครีเอเตอร์ จึงลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของ ‘Cloud 11 Hall’ ที่จุคนได้ถึง 2,500 คน และโรงละคร Blackbox Theatre เพื่อเปิดเวทีให้ศิลปินรุ่นใหม่มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพ นอกจากนี้ยังมีโซน Passion Playground พื้นที่ Retail ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยสนับสนุนให้ครีเอเตอร์ต่อยอดและสร้างมูลค่าจากผลงานของตนเอง เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ที่ต้องการทำธุรกิจมีหน้าร้าน องค์ประกอบทั้งหมดจะถูกเชื่อมด้วย ‘Cloud 11 Park’ สวนลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เปิดพื้นที่ให้ทั้งครีเอเตอร์และคนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้บริการได้ตลอดเวลา
“นอกจากจะเป็นพื้นที่สีเขียวให้คนในย่านเข้ามาใช้งาน เรายังต้องการจะให้พื้นที่ตรงนี้เป็นเวทีหรือแพลตฟอร์มครีเอเตอร์มาแสดงออกได้ไม่จำกัด ใครอยากฉายหนังกลางแปลง เล่นดนตรีเปิดหมวก หรือจัดการแข่งขันกีฬาก็ได้เช่นกัน” พอลกล่าว
ยกระดับย่านสุขุมวิทใต้ให้เป็น Creative & Innovation District
นอกจากการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการให้เอื้อต่อการสร้างสรรค์ผลงานและการใช้ชีวิตของครีเอเตอร์ Cloud 11 ยังพัฒนาโครงการโดยยึดมั่นแนวคิด ‘For All Well-being’ ของ MQDC จึงให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงการที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ควบคู่กับการพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกับชุมชน
จึงเพิ่มการลงทุนกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้กับย่าน ด้วยมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เพื่อผลักดันการพัฒนาย่านสุขุมวิทใต้ให้เป็น Creative & Innovation District สำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย โดยได้วางแผนพัฒนาในหลายโครงการ อาทิ การพัฒนาพื้นที่ริมคลอง ปรับปรุงสวนสาธารณะ พัฒนาทางเท้าทั้งบนถนนสุขุมวิทและในซอยย่อย ตลอดจนการร่วมจัดเทศกาลงานสร้างสรรค์
“เรามองตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในย่าน ได้มีการหารือกับทางกรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาพื้นที่ริมคลองให้มีคุณภาพน้ำที่ดีขึ้นและทางเดินที่ปลอดภัย หรือการเชื่อมต่อภายในย่าน อย่างการทำ Sky Walk หรือการพัฒนาทางเดินเท้า ไม่ว่าจะเป็นริมถนนสุขุมวิทไปจนถึงตรอกซอกซอย ไปจนถึงการพัฒนาอาคารพาณิชย์ ตึกแถว โกดังเก่าที่เคยถูกทิ้งร้าง โดยร่วมมือกับเจ้าของเดิมทำให้มันกลับมามีชีวิตชีวา” องศากล่าว
สำหรับการขับเคลื่อนพัฒนาย่าน Cloud 11 ได้หารือความร่วมมือกับทางสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA – Thailand Creative Culture Agency) และ NIA เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่และขับเคลื่อนนโยบายด้านนวัตกรรม อาทิ งาน ‘Collective by Cloud 11’ จัดแสดงผลงานสร้างสรรค์จากครีเอเตอร์กว่า 50 ชีวิต ในโรงงานเก่ายุค 1960 หรือการเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดงาน Bangkok Design Week ในพื้นที่ South Sukhumvit ต่อเนื่องมา 2 ปี
งานก่อสร้างคืบหน้า 80% พร้อมเปิดปลายปี 2568
หลังเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2023 โดยมี บริษัท นันทวัน จำกัด หรือ ไทยโอบายาชิ เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง และมี Snøhetta สตูดิโอออกแบบชื่อดังระดับโลกสัญชาตินอร์เวย์เป็นที่ปรึกษาด้านการออกแบบทำงานร่วมกับบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมชั้นนำของประเทศไทยอย่าง A49 (บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด) ปัจจุบันโครงการก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 80% ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินงานการตกแต่งภายใน และจะทยอยส่งมอบพื้นที่ให้ผู้เช่าพื้นที่รีเทลเข้าตกแต่งภายในเดือนมิถุนายน ซึ่งปลายปีนี้พร้อมเปิดให้บริการ 80% ในส่วนของรีเทลและสำนักงาน สำหรับโรงแรม YOTEL Bangkok จะเปิดในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ในขณะที่โรงแรม Sangsan Bangkok (สร้างสรรค์ แบงค็อก) ภายใต้ Tribute Portfolio ในเครือโรงแรมระดับโลก Marriott International คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2027
อภิสิทธิ์ โรจนประดิษฐ์ ผู้จัดการโครงการและวิศวกรผู้ควบคุมงาน บริษัท นันทวัน จำกัด (Thai Obayashi)
อภิสิทธิ์ โรจนประดิษฐ์ ผู้จัดการโครงการและวิศวกรผู้ควบคุมงาน บริษัท นันทวัน จำกัด (Thai Obayashi) กล่าวว่า “ไทยโอบายาชิ มีจุดเด่นในเรื่องการก่อสร้างที่ใช้มาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการก่อสร้างเพื่อความปลอดภัยของอาคาร อาทิ โครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่พิเศษ (Box Girders Beam) เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักของอาคารไปยังเสาหรือฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการใช้เทคนิคการก่อสร้างด้วย Steel Reinforced Concrete (SRC) เป็นการผสมผสานระหว่างโครงสร้างเหล็ก (Steel Structure) และโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced Concrete) เพื่อเพิ่มความแข็งแรง รวมถึงประสิทธิภาพการรับแรงดัดของอาคาร ให้มีความยืดหยุ่น และความปลอดภัยของอาคาร โดยเฉพาะในเรื่องการเคลื่อนตัวของโครงสร้างอาคาร จากผลกระทบจากแผ่นดินไหว ทั้งนี้ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เราได้ให้วิศวกรเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ไม่พบความเสียหายอันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว โครงสร้างอาคารยังคงมีความสมบูรณ์ แข็งแรง ผู้เช่าสามารถมั่นใจในความปลอดภัยของโครงการได้อย่างแน่นอน”
‘theCOMMONS Cloud 11’ สวนหลังบ้านสำหรับย่านสุขุมวิทใต้
พาร์ตเนอร์สำคัญที่ช่วยเติมเต็มระบบนิเวศของการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้กับ Cloud 11 ได้แก่ theCOMMONS (เดอะคอมมอนส์) คอมมูนิตี้ที่ตั้งใจที่จะเป็น ‘สวนหลังบ้านให้กับย่าน’
‘theCOMMONS Cloud 11’ (เดอะคอมมอนส์ คลาวด์ อีเลฟเว่น) จึงมาพร้อมคอนเซปต์ ‘South Sukhumvit’s Backyard’ สวนหลังบ้านสำหรับย่านสุขุมวิทใต้ เกิดจากการผสานจุดแข็งในการสร้าง Wholesome Community ของ theCOMMONS มาผนวกเข้ากับแนวคิด Empowering Creators ของโครงการ Cloud 11
วิชรี วิจิตรวาทการ ผู้ก่อตั้งบริษัท คินเนสท์ กรุ๊ป และเดอะคอมมอนส์
“เราตั้งใจนำแนวคิด Wholesome Community หรือการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้คน ภายในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น การกินดื่มหรือใช้เวลาอยู่กับครอบครัว อยู่กับสัตว์เลี้ยง พบปะสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน รวมไปถึงสร้างประสบการณ์ใหม่ผ่าน The Wholesome Clubs คลับที่รวมกิจกรรมใหม่ๆ ให้คนที่มีความสนใจเหมือนกันได้มารวมตัวและทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิ Run Club, Book Club หรือ Tai Chi Club ที่ผ่านมาเราจัดเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ด้วยพื้นที่ของ theCOMMONS Cloud 11 จะทำให้เราสามารถขยายการจัดงานให้ใหญ่ขึ้นและมีกิจกรรมในรูปแบบใหม่ๆ ให้ติดตามมากขึ้น” วิชรี วิจิตรวาทการ ผู้ก่อตั้งบริษัท คินเนสท์ กรุ๊ป และเดอะคอมมอนส์ กล่าว
บนพื้นที่ 5,420 ตารางเมตร บริเวณชั้น 4 ของโครงการ Cloud 11 ประกอบด้วย 5 โซนสำคัญ ซึ่งจะช่วยเติมเต็มในแง่ของพื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ แสดงผลงาน ตลอดจนพื้นที่ของการทำงาน และพักผ่อนหย่อนใจ
‘YOTEL Bangkok’ สมาร์ทโฮเทลแห่งอนาคตแห่งแรกในไทย
อีกหนึ่งพาร์ตเนอร์สำคัญ YOTEL (โยเทล) เครือสมาร์ทโฮเทลระดับโลก ที่จะมาเปิดโรงแรมสาขาเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ ‘YOTEL Bangkok’ เตรียมมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่แปลกใหม่ภายใต้แนวคิด ‘Heart of Innovation and Technology’ ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยของ YOTEL
Brendan Daly YOTEL’s Regional General Manager for Asia
Brendan Daly ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชีย โรงแรม YOTEL เล่าถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบ YOTEL ที่ได้จากที่นั่ง First-class ของสายการบิน นำไปสู่การออกแบบห้องพักจำนวน 250 ห้อง ที่พรั่งพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ อาทิ เตียงนอนที่สามารถปรับขึ้น-ลง ให้เป็นโซฟาเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย หุ่นยนต์บริการส่งน้ำดื่มและผ้าเช็ดตัว ไปจนถึงบริการ Self-service Kiosks เช็กอินด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ยังมีห้องอาหาร บาร์ และ Sky bar รวมถึงฟิตเนสและสระว่ายน้ำ จึงตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุมทั้งครีเอเตอร์และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่จะเข้ามาใช้บริการภายในโครงการ รวมถึงรองรับนักลงทุน และนักธุรกิจที่จะเดินทางมายังย่านนวัตกรรมสุขุมวิทใต้ด้วย
อีกไม่นานเกินรอ ครีเอเตอร์ไทยจะมีพื้นที่และเครื่องมือพร้อมสรรพให้ลับคมไอเดียและสร้างสรรค์ผลงานไปประชันบนเวทีโลกอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันประชาชนย่านสุขุมวิทใต้จะได้มีพื้นที่สีเขียวลอยฟ้าขนาดใหญ่ให้ได้ออกมาใช้ชีวิตร่วมกัน รวมไปถึงใครก็ตามที่อยากมาค้นหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตและจุดประกายไอเดียสร้างสรรค์ก็สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ ‘Cloud 11’ ได้เช่นกัน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมทาง www.cloud11bangkok.com หรือ https://www.facebook.com/cloud11bangkok