วันนี้ (1 พฤษภาคม) กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.), กองทัพธรรม และศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดย พิชิต ไชยมงคล, นัสเซอร์ ยีหมะ, อานนท์ กลิ่นแก้ว และ ใจเพชร กล้าจน ได้เคลื่อนขบวนจากสะพานชมัยมรุเชฐ มายังบริเวณด้านหน้าโรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 17 เพื่อจัดกิจกรรมชุมนุมปราศรัยคู่ขนานไปกับการประชุม
แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้ผลัดกันขึ้นปราศรัย โดยอานนท์กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อยื่นหนังสือแสดงจุดยืนของคนไทยที่ไม่ต้องการเสียดินแดนต่อ พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เพื่อเรียกร้องให้กองทัพยืนหยัดรักษาอธิปไตยของชาติอย่างมั่นคง เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งฝากคำเตือนไปยัง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าหากผลการเจรจาในวันนี้ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบ ขอให้เตรียมตัวรับแรงต้านทาน
ขณะที่พิชิตกล่าววิจารณ์ท่าทีของภูมิธรรมที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกว่า ‘ออกญากลาโหม’ ซึ่งเคยระบุว่าจะมุ่งเน้นการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่ทับซ้อนก่อนการเจรจาเรื่องเขตแดน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พิชิตตั้งคำถามว่า หากรัฐบาลไทยปักธงที่ผลประโยชน์เป็นหลัก แล้วจะประชุมเรื่องเขตแดนไปเพื่ออะไร ขณะที่กัมพูชามีเป้าหมายต้องการรุกคืบ
ภายหลังการเจรจากับเจ้าหน้าที่ ชุดเจรจาของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ข้อตกลงในการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนด และได้รับอนุญาตให้ส่งตัวแทนจำนวน 10 คน (แกนนำ 5 คน และสื่อของกลุ่ม 5 คน) เข้าไปยื่นหนังสือ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยินยอมที่จะงดใช้เครื่องขยายเสียงในระหว่างที่การประชุม GBC กำลังดำเนินอยู่ จากนั้น ตัวแทนกลุ่มได้ยื่นหนังสือต่อ พล.ท. ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ซึ่งเป็นผู้แทนของผู้บัญชาการทหารสูงสุด
พล.ท. ณัฐพงษ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า การประชุม GBC ครั้งนี้เน้นหารือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน เช่น ปัญหาหมอกควันข้ามแดน แต่ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องเขตแดน ซึ่งประเด็นเรื่องเขตแดนจะต้องหารือในกรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission: JBC) เนื่องจากมีรายละเอียดทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง และเป็นเวทีเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี พร้อมยืนยันต่อกลุ่มผู้ชุมนุมว่า กองทัพยึดมั่นในการรักษาอธิปไตยของชาติเป็นอันดับแรก และจะนำข้อเรียกร้องที่ได้รับเสนอต่อผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับบรรยากาศบริเวณหน้าโรงแรมฯ มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 6, สถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางรัก, สน.พลับพลาไชย 2 และกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน รวมกว่า 1 กองร้อย นำโดย พล.ต.ต. สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 คอยดูแลความสงบเรียบร้อย