พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 ได้หารือกับ จินซู ประธานประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก, ฟานซิง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และ อรกัญญา พิบูลธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ สาขาประเทศไทยของธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America) เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อสถานการณ์การค้าการลงทุนเศรษฐกิจโลก และกระชับความสัมพันธ์กับภาคเอกชนสหรัฐฯ
พิชัยกล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีในการแลกเปลี่ยนมุมมองต่อสถานการณ์การค้าการลงทุนของโลกกับภาคการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งในโอกาสนี้ได้แจ้งว่า ไทยและสหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์อันดี โดยไทยได้ติดตามนโยบายการค้าใหม่ๆ ของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะมาตรการเก็บภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs ของสหรัฐฯ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย
สำหรับฝ่ายไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการค้าที่สมดุลและเป็นประโยชน์ร่วมกันกับสหรัฐฯ โดยอาจพิจารณาเพิ่มการนำเข้าสินค้าที่ไทยมีความต้องการจากสหรัฐฯ เพื่อลดการขาดดุลการค้ากับไทย และขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพและเกื้อหนุนกัน เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อาหารแปรรูป และซูเปอร์ฟู้ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของไทยในการเป็นศูนย์กลางอาหารของโลก และสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารในระดับสากล
นอกจากนี้ พิชัยยังเน้นย้ำถึงบทบาทของสหรัฐฯ ในฐานะผู้ผลิตและส่งออกพลังงานชั้นนำ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของไทยได้ การเพิ่มความร่วมมือในด้านพลังงานจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของไทยในระยะยาว
พิชัยกล่าวต่อไปว่า ไทยมีจุดแข็งและความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านพลังงานที่ไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอย่างเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าไทยมีความพร้อมที่จะเป็นฐานการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะการผลิตแผงวงจร PCB (Printed Circuit Board) อุตสาหกรรม Data Center ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในอนาคต
นอกจากนี้ ไทยยังมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค (Financial Hub) โดยผู้บริหาร Bank of America ให้ข้อเสนอแนะว่า ในการเป็นศูนย์กลางการเงิน ไทยจะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการศึกษาเพื่อผลิตบุคลากรที่มีทักษะสูงเพื่อเข้าทำงานในภาคการเงิน รวมถึงการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเป็นศูนย์กลางทางการเงินอย่างครบวงจร
ในโอกาสนี้ พิชัยยังเน้นย้ำว่า ไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งสหรัฐฯ และจีน ซึ่งทั้งสองประเทศต่างเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย และยังจำเป็นต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ไทยมีจุดยืนเดียวกับอาเซียนในการรักษาความเป็นกลาง ส่งเสริมความร่วมมือที่สมดุลกับทุกฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการค้า ซึ่งไทยพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับคู่ค้าต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐฯ และจีนอย่างสมดุลเพื่อประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน
สำหรับ Bank of America เป็นหนึ่งในสถาบันการเงินชั้นนำของโลก โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกตามมูลค่าตลาด (Market Capitalization) รองจาก JPMorgan Chase ทั้งนี้ Bank of America มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ และมีการดำเนินงานครอบคลุมมากกว่า 35 ประเทศทั่วโลก และมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการค้าและการลงทั้งทุนในสหรัฐฯ และระหว่างประเทศ