วันนี้ (1 เมษายน) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค สส. และคณะทำงานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคที่มี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธานในที่ประชุมว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้อาคารก่อสร้างของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความเสียใจ และขอไว้อาลัยต่อครอบครัว ของผู้เสียชีวิต
พล.ต.ท. ปิยะ กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐได้มีการแจ้งเตือนรัฐบาลมาก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ที่เกิดเหตุอุทกภัยในภาคเหนือ ให้มีการปรับปรุงระบบการเตือนภัยไปยังประชาชนว่า จะมีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบ รวมไปถึงแนวทางการดำเนินการอพยพประชาชน และสถานที่พักพิงชั่วคราวต่างๆ แต่ผ่านมากว่า 7 เดือน รัฐบาลก็ยังไม่มีความคืบหน้า ไม่ได้มีการพัฒนาหรือการปรับปรุงระบบการเตือนภัย
“นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องโยนความผิดให้ใคร เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ในการกำกับดูแลและควบคุมการปฏิบัติงานของทุกภาคส่วน ในฐานะเป็นผู้นำคณะรัฐบาลให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้กำหนดเอาไว้ ถ้ารัฐบาลมีความใส่ใจในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น และหากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ประชาชนได้รับการแจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว ความเสียหายคงจะไม่หนักเท่านี้อย่างแน่นอน” พล.ต.ท. ปิยะ กล่าว
พล.ต.ท. ปิยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในประเทศที่พัฒนาแล้วระบบการเตือนภัยไม่ว่าจะเป็น เพลิงไหม้ขนาดใหญ่ แผ่นดินไหว อุทกภัย วาตภัย หรือภัยพิบัติอื่นๆ เขาจะแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนได้รับก็อย่างรวดเร็วทั่วถึง และควรจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ โดยเร็วที่สุดหรือ ก่อน 24 ชั่วโมง เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจว่าจากข้อมูลที่รัฐบาลแจ้งเตือนมานี้ จะต้องมีการดำเนินการอย่างไร ตลอดจนการซักซ้อมแผน เผชิญ เหตุ เพื่อสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง