ทำเนียบขาวสหรัฐอเมริการะบุว่า “เราไม่เคยเข้าใกล้สันติภาพในยูเครนเท่านี้มาก่อน” ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมเดินหน้าโทรศัพท์สายตรงถึง วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในวันนี้ (18 มีนาคม) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหาทางยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดำเนินมากว่า 3 ปี
ทรัมป์มีแผนจะหารือกับปูตินในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับดินแดน โรงไฟฟ้า และสินทรัพย์บางประการ โดยหลายฝ่ายต่างเฝ้าจับตาว่าการสนทนาครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพื่อปูทางไปสู่การยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนในอนาคต
ทางด้าน คาจา คัลลาส หัวหน้าผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง (EU Foreign Policy Chief) แสดงความเห็นว่า รัสเซียอาจไม่ได้ต้องการสันติภาพจริงๆ รัสเซียเชื่อถือไม่ได้ ทั้งยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะมาร่วมโต๊ะเจรจาเพื่อยุติสงครามครั้งนี้
ขณะที่ เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ก็ตั้งคำถามถึงความตั้งใจของปูตินเกี่ยวกับการยุติสงคราม โดยระบุว่า ปูตินจะต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเขามุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอย่างจริงจัง
เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ชี้ว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้แสดงความกล้าหาญด้วยการตอบตกลงกับแผนหยุดยิง 30 วันของสหรัฐฯ แล้ว ขณะนี้รัสเซียจำเป็นต้องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ารัสเซียก็ต้องการสันติภาพอย่างแท้จริงเช่นเดียวกัน พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นเกี่ยวกับหลักประกันด้านความมั่นคงของยูเครนที่เป็นรูปธรรม รวมถึงสันติภาพที่มั่นคงถาวรในยูเครนและยุโรป
ก่อนหน้านี้ปูตินระบุว่า เขาเห็นชอบกับแนวคิดของการหยุดยิงในยูเครน แต่ก็ยังมีคำถามและรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องการคำตอบอยู่ จึงจำเป็นจะต้องหารือกันเพิ่มเติม ท่ามกลางการสู้รบของทั้งรัสเซียและยูเครนที่ยังคงโจมตีกันอย่างต่อเนื่องในขณะนี้
ทางด้านความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดตั้ง ‘พันธมิตรแห่งความเต็มใจ’ (Coalition of the Willing) ที่ต้องการจะช่วยเหลือยูเครนในสงครามครั้งนี้ โฆษกนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรระบุว่า ขณะนี้มีมากกว่า 30 ประเทศที่ต้องการเข้าร่วม เพื่อสนับสนุนการรักษาข้อตกลงหยุดยิงในสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยเน้นย้ำว่าการรับประกันความปลอดภัยจากสหรัฐฯ ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาสันติภาพ
แฟ้มภาพ: Kremlin Press Office / Handout / Anadolu Agency / Getty Images
อ้างอิง: