วานนี้ (3 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 83/2568 เรื่อง การจัดตั้งกลไกอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้น ควบคุมการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด และเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติของประชาชน
โดยจะเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งภัยคุกคามข้ามชาติรูปแบบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนและการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนนั้น
เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาพเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2538 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้มีคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เรียกโดยย่อว่า ‘คณะกรรมการ ปชด.’
- มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานกรรมการ
- ปลัดกระทรวงมหาดไทย, ผู้บัญชาการทหารบก, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นรองประธานกรรมการ
- ส่วนกรรมการ ประกอบด้วยผู้แทนจาก สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ, กองอำนวยการรักษาความมั่นคง, กระทรวงกลาโหม, กระทรวงการคลัง, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กระทรวงยุติธรรม, กระทรวงสาธารณสุข, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, กองทัพภาค,จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณาตามที่ประธานเห็นสมควร
คณะกรรมการ ปชด. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
- ติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อ
ความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
- นำนโยบายของรัฐบาล นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566-2570) หรือยุทธศาสตร์เฉพาะเรื่องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ไปสู่การปฏิบัติ
- เร่งรัด กำกับดูแล ตรวจสอบ ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการและองค์การต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ตามนโยบายของรัฐบาล นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566-2570) และยุทธศาสตร์เฉพาะเรื่อง
- ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชน หน่วยงานภาควิชาการ และองค์กรภาคประชาชน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน
- แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือคณะที่ปรึกษา เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
- รายงานผลการปฏิบัติงานหรือสถานการณ์ปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ
- ดำเนินการอื่นใดตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ข้อ 2 ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เรียกโดยย่อว่า ‘ศอ.ปชด.’ โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการ เรียกโดยย่อว่า ‘ผอ.ศอ.ปชด.’
มีหน้าที่และอำนาจดังต่อไปนี้
- อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง
เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566-2570) นำนโยบายของคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านไปสู่การปฏิบัติให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม
- ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชน หน่วยงาน
ภาควิชาการ และองค์กรภาคประชาชน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน
- รายงานผลการปฏิบัติงานหรือสถานการณ์ปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบ
ต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ต่อ คณะกรรมการ ปชด.
- ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและ
แก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านมอบหมาย
ทั้งนี้ ผอ.ศอ.ปชด. มีอำนาจในการจัดตั้งกองอำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการ หรือศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ ศอ.ปชด. ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยจัดโครงสร้างการติดต่อสื่อสาร การรายงาน และการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงาน
ข้อ 3 ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการและให้ความร่วมมือแก่คณะกรรมการ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อน ตลอดจนการปฏิบัติการตามที่ได้รับการร้องขอ
ข้อ 4 คำสั่งอื่นใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน
ข้อ 5 การเบิกจ่ายเบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ให้เป็นไป
ตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 หรือตามระเบียบของทางราชการ แล้วแต่กรณีโดยเบิกจ่ายจากงบประมาณของกรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
แพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี