×

กกท. ชี้แจงไทยยังต้องเจรจาสัญญา MotoGP ย้ำหากจัดควบ F1 จะใช้งบประมาณเยอะ

โดย THE STANDARD TEAM
03.03.2025
  • LOADING...
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. แถลงชี้แจงกรณีสัญญาการเป็นเจ้าภาพ MotoGP และการเจรจาดึง F1 มาจัดในประเทศไทย

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ออกมาชี้แจงกรณีข่าวที่ระบุว่า ไทยจะไม่ต่อสัญญาเป็นเจ้าภาพ MotoGP หลังสัญญาเดิมกำลังหมดลงในปี 2026 โดยยืนยันว่า “ไม่มีประโยคไหนที่บอกว่าไทยจะไม่ต่อสัญญา”

 

โดย ดร.ก้องศักด เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกท. อยู่ระหว่างการพูดคุยและประเมินข้อมูล โดย Dorna Sports ผู้ถือลิขสิทธิ์ MotoGP ชื่นชมประเทศไทยว่าเป็นหนึ่งในสนามแข่งที่ดีที่สุดในโลก ขณะที่รัฐบาลเองก็มองว่า MotoGP ไม่ใช่แค่กีฬา แต่ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ

 

ขณะเดียวกัน การแข่งขัน MotoGP ในปีนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ทำลายสถิติในหลายมิติ เช่น

  • เรื่องมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงเป็นประวัติการณ์เกินกว่า 5,000 ล้าน
  • จำนวนผู้ชมที่สูงขึ้นเกือบ 7%
  • ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 52,000 คน เพิ่มขึ้น 38%

 

จากการประเมินผลการจัดงานภาพรวมในเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ การจ้างงานและจำนวนผู้ชมที่สูงขึ้น รวมทั้งการชื่นชมการจัดการแข่งขันจาก Dorna Sports เองก็ตาม แน่นอนว่าการแข่งขันการเป็นเจ้าภาพสูงขึ้น หลายประเทศก็จ่อคิวรออยู่ ถ้าไทยไม่ตัดสินใจก็มีหลายประเทศรออยู่ ซึ่งทุกอย่างต้องชัดเจนก่อน 1 ปี เพราะ Dorna Sports จะต้องจัดการเรื่องสนามให้ลงตัว 

 

หากไทยไม่เป็นเจ้าภาพต่อ Dorna Sports ก็จะต้องไปคุยกับประเทศอื่นๆ แทน ซึ่งในเชิงปฏิบัติ กกท. เราพร้อมอยู่แล้ว ทั้งจากคำชมและมูลค่าทางเศรษฐกิจต่างๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องนำเสนอให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจพิจารณาอีกที 

 

ในการเจรจาเราได้มีการพูดคุยกับ Dorna Sports ว่าเราสนใจรายการอื่นๆ อย่างเช่นรถยนต์สูตร 1 (F1) อยู่ ดังนั้นเราตอบไม่ได้ 100% ว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ ต้องมีการพูดคุยเชิงนโยบาย แต่สำหรับ MotoGP เราเห็นนักบิดไทยอย่าง ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ลงแข่งขัน ซึ่งก็อาจจะมีคนที่ 2-3-4 ตามมาได้ถ้ายังได้เป็นเจ้าภาพต่อไป 

 

ถ้าจะจัดทั้ง 2 รายการ ในแง่งบประมาณก็ต้องให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด รัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญประเด็นนี้ ไม่อยากให้รัฐเป็นผู้ลงทุนฝ่ายเดียว อยากให้เอกชนมีบทบาทมากขึ้น 

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า หากได้ F1 เท่ากับจะไม่ต่อสัญญา MotoGP หรือไม่นั้น ทาง ดร.ก้องศักด ระบุว่า “อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะต้องเอาข้อมูลไปนำเสนอ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ เพราะตัวเลขมันดีขึ้น ดีกว่าก่อนยุคโควิดด้วย ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเชิงนโยบาย และขอย้ำอีกครั้งว่า ในการสัมภาษณ์เรื่องนี้ ไม่มีประโยคไหนที่บอกว่าจะไม่ต่อสัญญา MotoGP แต่อย่างใด”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising