ค่าแรงของญี่ปุ่นอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก จากการวิเคราะห์ของ Nikkei ที่ใช้แฮมเบอร์เกอร์ ‘Big Mac’ ของ McDonald’s เป็นมาตรวัดพบว่าแรงงานญี่ปุ่นซื้อเบอร์เกอร์ได้เพียง 2.18 ชิ้นต่อชั่วโมงการทำงาน น้อยกว่าออสเตรเลียที่ 3.95 ชิ้น และฮ่องกงที่ 2.56 ชิ้น ลดลงจาก 5 ปีก่อนถึง 0.2 ชิ้น สะท้อนปัญหาค่าแรงที่เพิ่มช้ากว่าราคาสินค้า
การเปรียบเทียบข้อมูลเศรษฐกิจระหว่างประเทศโดยตรงทำได้ยาก เนื่องจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและความแตกต่างของสภาพแวดล้อมการทำงาน วิธีหนึ่งที่จะปรับผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนคือการเปรียบเทียบราคาสินค้าเดียวกันที่มีจำหน่ายอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ Big Mac เป็นตัวอย่างทั่วไปของสินค้าดังกล่าว
Nikkei ใช้ข้อมูลจาก Indeed เว็บไซต์หางานทั่วโลกจากอเมริกา ซึ่งรวบรวมข้อมูลค่าจ้างรายชั่วโมงของพนักงานร้านจากเชนร้านอาหารและร้านค้าปลีกทั่วโลก 22 แห่ง รวมถึง McDonald’s จากหลายประเทศ นอกจากนี้ Nikkei ยังนำราคา Big Mac ในแต่ละประเทศที่เผยแพร่โดย The Economist มาใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อคำนวณว่าพนักงานทำงานหนึ่งชั่วโมงสามารถซื้อแฮมเบอร์เกอร์ Big Mac ได้กี่ชิ้น
ราคา Big Mac ตาม The Economist อยู่ที่ 3.2 ดอลลาร์ในญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 ต่ำกว่าในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเกือบ 50% สร้างภาพลักษณ์ว่าอาหารฟาสต์ฟู้ดในญี่ปุ่นมีราคาถูก แต่ Yusuke Aoki นักเศรษฐศาสตร์ที่ Indeed Japan กล่าวว่าราคาขายปลีกของแฮมเบอร์เกอร์ไม่ได้ ‘คุ้มค่า’ สำหรับคนงานในญี่ปุ่นอย่างที่คิด
จำนวน Big Mac ที่สามารถซื้อได้ลดลง 0.2 ชิ้นในญี่ปุ่นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในช่วงเวลานี้ ค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น 11% ในขณะที่ราคาของ Big Mac เพิ่มขึ้น 23% แม้ว่าระดับค่าจ้างจะค่อนข้างคงที่ตั้งแต่การล่มสลายของเศรษฐกิจฟองสบู่ในยุค 1990 การระบาดของโควิดและวิกฤตยูเครนได้ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง
พนักงานที่ร้าน McDonald’s ในย่านกินซ่าของโตเกียวเผยว่า “ค่าจ้างอยู่ในระดับเดียวกันทุกสาขา การขึ้นเงินเดือนตามทักษะที่พัฒนาขึ้นนั้นพบได้ยาก และถ้ามีก็เพียง 10 ถึง 20 เยนเท่านั้น”
การชะลอตัวของการเติบโตของค่าจ้างในญี่ปุ่นที่คำนวณเป็นดอลลาร์นั้นเห็นได้ชัดเจน แรงงานได้รับ 7 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงในปี 2024 ลดลงจาก 8.6 ดอลลาร์ในปี 2019 ค่าจ้างรายชั่วโมงในญี่ปุ่นต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการลดค่าของเงินเยน
ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคชี้ว่ายังมีช่องว่างสำหรับการเพิ่มค่าจ้างในญี่ปุ่น ส่วนแบ่งแรงงานของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของญี่ปุ่นอยู่ที่ 54% ในปี 2024 ลดลง 2% จากปี 2019 ซึ่งต่างจากสหรัฐฯ และยุโรปที่มีสัดส่วนมากกว่า 50% ตามรายงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ
ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจที่รวบรวมโดย OECD มีความใกล้เคียงกันในสหรัฐฯ และยุโรป แต่ในญี่ปุ่นธุรกิจยังคงมีความมั่นใจมากกว่าผู้บริโภค บ่งชี้ว่าผลประโยชน์ส่วนใหญ่ตกอยู่กับภาคธุรกิจ
UA Zensen พันธมิตรของสหภาพในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ร้านอาหารและค้าปลีก เตรียมเรียกร้องการเพิ่มค่าจ้าง 7% สำหรับพนักงานพาร์ตไทม์ในการเจรจาแรงงานประจำปีที่กำลังจะมาถึง ซึ่งทาง Tamon Nishio เลขาธิการของพันธมิตรได้ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า “เราจะเปลี่ยนแปลงจากการที่ญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็นประเทศค่าแรงต่ำให้สำเร็จในปีนี้”
ภาพ: 18th Studio / Shutterstock
อ้างอิง: