วันนี้ (19 กุมภาพันธ์) เวลา 11.30 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มเกษตรกรผู้ได้รับความเดือดร้อนจังหวัดพื้นที่ภาคกลาง ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, ลพบุรี, สิงห์บุรี, ชัยนาท และปทุมธานี ประมาณ 200 คน นำโดย ฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลมารวิชัย อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ สอาด สุขสุแดน กำนันตำบลไม้ตรา อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาอย่างเร่งด่วน โดยมีข้อเรียกร้อง ดังนี้
- ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ทำนา โดยกำหนดราคาประกันข้าวที่ 11,000 บาทต่อตัน และกำหนดปริมาณรับประกันราคาไม่เกิน 50 ตันต่อราย หรือดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในราคารับจำนำข้าว 11,0000 บาทต่อตัน สำหรับเกษตรกรรายละ 50 ตัน
- เรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาเกษตรกรผู้ทำนาในพื้นที่รับน้ำ โดยจัดสรรเงินชดเชย 300 บาทต่อไร่ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือนในแต่ละปี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเป็นพื้นที่รับน้ำ
- เรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าวในพื้นที่ทำการเกษตร เนื่องจากชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ไม่มีทางเลือกอื่นใดในการกำจัดฟางข้าว นอกจากการเผาทำลายหรือขอให้ตั้งงบรับซื้อตอซังข้าว เพื่อช่วยลดภาระชาวนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างรอยื่นหนังสือถึงนายกฯ กลุ่มเกษตรกรได้ปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง บริเวณถนนพิษณุโลก หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นการปราศรัยถึงปัญหาราคารับซื้อข้าวตกต่ำ พร้อมทั้งพร้อมชูป้ายระบุข้อความว่า ต้นทุน 6,000 บาท ขายได้ 6,500 บาท เอาเงินที่ไหนจ่ายดอกเบี้ย ธ.ก.ส., กำแพงเพชรเกวียนละ 5,000-6,000 บาท จะอยู่รอดได้อย่างไร ขอ 12,000 บาทต่อเกวียน, หยาดเหงื่อของชาวนาต้องมาเป็นน้ำตาในวันนี้ โคตรช้ำใจรัฐบาล
จากนั้นเวลา 12.50 น. สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ท่านเข้าใจปัญหาของเกษตรกรทุกคน วันนี้ต้องขอโทษทุกคน ที่ผ่านมาตนเป็น รมช.พาณิชย์ เอาข้อมูลมาดู 2 ปีที่ผ่านมา อินเดียไม่ได้ส่งออก ไม่ได้แข่ง แต่พอเขาส่งออกทำให้ข้าวราคาตก ตรงนี้ไม่ใช่ข้อแก้ตัว นายกฯ กำชับกระทรวงพาณิชย์ว่าการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (อนุ นบข.) ที่จะกำหนดแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวเปลือกที่ลดลงจากการกลับมาส่งออกของอินเดียหลังหยุดไป 2 ปี ในวันพรุ่งนี้ (20 กุมภาพันธ์) กระทรวงพาณิชย์ต้องเสนอว่าจะให้ราคาเท่าไร
สุชาติกล่าวว่า ส่วนที่รัฐบาลเพิ่มภาระให้เกษตรกรเรื่องห้ามเผาฟาง ถือเป็นนโยบายแก้ฝุ่น PM2.5 การประชุมพรุ่งนี้ก็จะบรรจุเรื่องนี้ด้วย เพราะสร้างปัญหาให้เกษตรกร รวมถึงเรื่องเงินชดเชยด้วยที่จะมีการสอบถาม รมว.คลัง ว่าจะเป็นอย่างไร ยืนยันว่านายกฯ ไม่ทอดทิ้ง แต่มีความตั้งใจแก้และติดตามปัญหา ไม่ใช่แค่มาพบรับหนังสือแล้วกลับ ซึ่งการที่ตนมาวันนี้ถือว่าเอาหน้าตัวเองมาการันตี
จากนั้นเกษตรกรบางส่วนได้ขอความชัดเจนจากสุชาติว่าการประชุมในวันพรุ่งนี้จะได้ตัวเลขราคาข้าวที่ชัดเจนหรือไม่ พร้อมทั้งระบุว่า ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสนใจแต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สุชาติจึงชี้แจงว่า วันนี้ตนไม่ได้พูดสักคำถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาราคาข้าวจึงได้มาชี้แจง พร้อมบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “วันนี้ไม่คุยเรื่องการเมือง แต่มาคุยเรื่องความเดือดร้อนของเกษตรกร วันนี้ผมคุยให้ชัดว่าจะคุยเรื่องความเดือดร้อน เพราะเป็นลูกผู้ชาย”
สุชาติยืนยันด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ ภายหลังการประชุมคณะอนุ นบข. เมื่อมีความชัดเจนจะแถลงข่าวให้พี่น้องเกษตรกรรับทราบ พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า เรื่องข้าวไม่ได้มีแค่เฉพาะกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง แต่ยังมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งการทำงานต้องบูรณาการกันทุกฝ่าย ไม่ใช่ลูบหน้าปะจมูกกันทุกครั้งไป
สมชัย ไตรถาวร ประธานชมรมชาวนาอยุธยา กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ หากไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากที่ประชุม จะมีการรวมตัวของเกษตรกรทุกจังหวัดทั่วประเทศปิดถนน ติดคุกก็ติดคุก และเชื่อว่าคนที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้คือนายกฯ ซึ่งสุชาติย้ำอีกครั้งว่า การมาพูดคุยกับพี่น้องชาวนาวันนี้เรามาด้วยความจริงใจ แต่ที่ยังบอกราคาชัดเจนไม่ได้ เพราะต้องรอการประชุมพรุ่งนี้ก่อน แต่เชื่อว่าก็ต้องได้บ้าง