วันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา ดร.นพดล สมยานนทนากุล ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรปราการ พรรคประชาชน พร้อมด้วย พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส. สมุทรปราการ เขต 1 (เมืองสมุทรปราการ) และ วีรภัทร คันธะ สส. สมุทรปราการ เขต 6 (พระประแดง) พรรคประชาชน ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนการทุจริตและความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้ง อบจ. เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมกับมอบหลักฐานการทุจริตเลือกตั้ง อบจ.สมุทรปราการ ที่ประชาชนร่วมกันแจ้งเบาะแส โดยโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้รับหนังสือแทน พร้อมยืนยันว่าจะนำเรื่องนี้มาพิจารณาและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการต่อไป
พนิดากล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีการเลือกตั้ง อบจ. ทั่วประเทศ ซึ่งพบว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีปัญหาหลายด้าน โดยพรรคประชาชนได้เปิดช่องทางให้ประชาชนที่พบเห็นการทุจริตหรือพบเห็นการดำเนินการจัดการเลือกตั้งที่ขาดประสิทธิภาพ ไม่โปร่งใส สามารถส่งหลักฐานมายังพรรคได้ หลังจากรวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ แล้ว พวกเราในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงขอนำปัญหาต่างๆ มาพิจารณาต่อ เพื่อพัฒนาการเลือกตั้งท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้น ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง พร้อมกับยื่นข้อมูลและหลักฐานการทุจริตและความไม่ชอบมาพากลต่างๆ ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ดร.นพดล กล่าวเสริมว่า เหตุที่ตนและ สส. สมุทรปราการ มายื่นหนังสือที่รัฐสภาวันนี้ เพราะเชื่อว่ารัฐสภาคือสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย และการเลือกตั้งก็คือรากฐานสำคัญของประชาธิปไตย โดยการเลือกตั้ง อบจ. ที่ผ่านมาพี่น้องชาวสมุทรปราการต่างพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหลายอย่าง ตนและ สส. สมุทรปราการ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องทุกคะแนนเสียงและปกป้องเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชน จึงขอมาร้องเรียนและขอความเป็นธรรมต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ไปดำเนินการติดตามว่าเกิดเหตุความผิดปกติอะไรขึ้นในจังหวัดสมุทรปราการ
ส่วนวีรภัทรกล่าวว่า ในการเลือกตั้ง อบจ.สมุทรปราการ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาพบความผิดปกติมากมาย ซึ่งในเบื้องต้นพรรคประชาชนได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมไปแล้ว เช่น การแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่มีพฤติกรรมซื้อสิทธิ์ขายเสียงที่สถานีตำรวจภูธรพระประแดง แต่ตำรวจให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ไม่ใช่การดำเนินคดี โดยพนักงานสอบสวนอ้างว่าไม่มีอำนาจสอบสวน เพราะอำนาจอยู่ที่ กกต. เพียงฝ่ายเดียว ทั้งที่จริงแล้วพนักงานสอบสวนสามารถดำเนินคดีไปพร้อมๆ กันได้ โดยเฉพาะหลักฐานคลิปวิดีโอที่ส่งให้ตำรวจเห็นใบหน้าของผู้กระทำผิดชัดเจน ไม่มีข้ออ้างใดๆ ที่จะไม่สามารถติดตามผู้กระทำการดังกล่าวมารับโทษได้ ตนจึงขอเตือนว่าตำรวจอย่าประวิงเวลาในคดีเพื่อไปซักซ้อมพยาน ขอให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมาด้วย
วีรภัทรกล่าวต่อไปว่า ขอให้สื่อมวลชนช่วยกันติดตามการทำงานของ กกต. อย่างใกล้ชิด เพราะที่ผ่านมามีหลายประเด็นไม่ชอบมาพากล เช่น การจัดการเลือกตั้งในวันเสาร์ การที่ประชาชนทุกเขตในจังหวัดสมุทรปราการพูดตรงกันว่า ‘200’ รวมถึงหลักฐานอื่นๆ ที่ประชาชนช่วยกันแจ้งเข้ามา เช่น ใบรายงานผลการนับคะแนน ส.ถ. 5/7 ของหน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งในอำเภอพระประแดง ซึ่งมีผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เพียง 2 คน คือเบอร์ 1 กับเบอร์ 2 แต่ในใบรายงานผลกลับมีการนับคะแนนเบอร์ 4 เข้ามาด้วย ซึ่งเป็นเบอร์ของผู้สมัครนายก อบจ. ขณะที่ป้ายนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งเดียวกันเลขขีดนับคะแนนบนป้ายกับในใบรายงานผลก็ไม่ตรงกัน นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งของหน่วยเลือกตั้งที่เราส่งคนไปเฝ้า หลายหน่วยไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง บางหน่วยประชาชนรายงานว่ากรรมการประจำหน่วยไม่ยอมให้ไปเฝ้าจับตาด้วยซ้ำ
“ขอฝากไปถึง กกต. โปรดทำงานอย่างเป็นธรรม ขณะนี้หลักฐานการร้องเรียนมีจำนวนมาก และ ดร.นพดล ก็จะเดินทางไปยื่นร้องเรียนอีกหลายจุด ยืนยันว่าพรรคประชาชนจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบเด็ดขาด” วีรภัทรกล่าว
