แม้กฎหมายบังคับใช้ภาษีในอัตรา 25% กับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะถูกระงับชั่วคราว แต่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยังยืนยันจะใช้มาตรการภาษี 10% กับสินค้าจีน โดยอาศัยคำสั่งพิเศษประธานาธิบดี (Executive Order) ซึ่งในรายละเอียดของคำสั่งดังกล่าวมีการพูดถึงข้อกำหนดสำคัญที่มุ่งเป้าไปยังกฏกฎที่เรียกว่า de minimis
de minimis เป็นกฎที่กำหนดมูลค่าขั้นต่ำในการนำเข้าสินค้าโดยไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งในปัจจุบันสหรัฐฯ อนุญาตให้สินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้าหากสั่งสินค้าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิดเกมเดือด! จีนโต้กลับสหรัฐฯ ทันที ประกาศขึ้นภาษีสูงถึง 15% มีผล 10 ก.พ. หลังทรัมป์เมินต่อเวลา 30 วันเหมือนแคนาดา-เม็กซิโก
- เปิดมุมมอง 4 นักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยปี 2568 และผลกระทบจากภาษี ‘ทรัมป์ 2.0’
การมีอยู่ของกฎ de minimis ก็เป็นเหมือนกับช่องโหว่ให้บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ อย่างเช่น SHEIN, Temu รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมาก ได้ใช้ประโยชน์เพื่อจัดส่งสินค้ามูลค่าต่ำไปยังผู้บริโภคชาวอเมริกัน
กฎ de minimis ที่ว่านี้มีมาเกือบ 1 ศตวรรษ ตามที่แหล่งอ้างอิงของ Bloomberg Law ระบุ โดยกฎดังกล่าวเริ่มมีบทบาทสำคัญขึ้นในช่วงที่มีการค้าข้ามพรมแดนของอีคอมเมิร์ซ เพราะตั้งแต่ปี 2015 จำนวนแพ็กเกจที่เคยได้รับการยกเว้นภาษีมีอยู่ราว 139 ล้านรายการ แต่ในปี 2024 จำนวนแพ็กเกจประเภทดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1.36 พันล้านรายการ หรือประมาณเกือบ 10 เท่าตัว อ้างอิงจากข้อมูลศุลกากรและการป้องกันชายแดนสหรัฐฯ
SHEIN และ Temu ใช้กลยุทธ์สินค้าราคาถูกเพื่อแลกกับการรอสินค้านานหน่อย ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มมองว่าการรอสินค้าจากจีนเป็นเรื่องปกติหากการรอจะทำให้ตนได้ราคาที่ประหยัดกว่า ซึ่งกฎ de minimis ก็ถูกใช้เป็นรากฐานสำคัญของโมเดลธุรกิจที่มีต้นทุนต่ำจากสองบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน
อย่างไรก็ดี The Verge รายงานว่า ทรัมป์ต้องการใช้คำสั่งพิเศษประธานาธิบดีเพื่อปิดช่องโหว่นี้ โดยจะทำให้สินค้าที่เดิมไม่เคยต้องเสียภาษีนำเข้ากลายเป็นต้องถูกเก็บภาษีอีก 3 ต่อ
- จากเงื่อนไขภาษีที่มีอยู่เดิมตามประเภทสินค้านั้นๆ
- เงื่อนไขภาษีที่เจาะจงเฉพาะสินค้าจีน ที่ทรัมป์เคยบังคับใช้ในสมัยแรกที่เขาเป็นประธานาธิบดี
- ภาษีใหม่กับจีนอีก 10%
ตัวอย่างเช่น เสื้อยืดจากจีนจะต้องจ่ายภาษี 10% ใหม่ บวกกับภาษีนำเข้าตามประเภทสินค้า และภาษีเฉพาะสินค้าจากจีนที่ได้รับการบังคับใช้ในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกของทรัมป์ ซึ่งการเพิ่มต้นทุนดังกล่าวอาจทำให้ธุรกิจเหล่านี้ไม่สามารถรักษาข้อได้เปรียบเรื่องราคาต่ำสุดที่เป็นจุดเด่นในการแข่งขันได้
ความสำเร็จของ SHEIN และ Temu สร้างแรงกดดันให้กับบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Amazon โดยเมื่อปีที่แล้ว Amazon เปิดตัว Amazon Haul ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เลียนแบบเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของจีน และมีสินค้าราคาถูกหลายรายการ โดย Amazon ก็ใช้ช่องโหว่ของกฎ de minimis เพื่อรักษาต้นทุนให้อยู่ในระดับต่ำ แสดงให้เห็นว่ากฎดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจประเภทนี้
หากทรัมป์สั่งยกเลิกกฎ de minimis จริงสำหรับสินค้าจากจีน ผู้บริโภคในสหรัฐฯ อาจได้เห็นราคาสินค้า เช่น เสื้อผ้า กระเป๋าถือ และของตกแต่งบ้าน เพิ่มสูงขึ้น
นักวิเคราะห์เตือนว่า การยกเลิกกฎ de minimis อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย ขณะเดียวกันก็จะทำให้รัฐบาลต้องใช้จ่ายเงินเพื่อบังคับใช้เพิ่มขึ้นอีกหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ให้เหตุผลการยกเลิกกฎ de minimis ว่าเป็นการป้องกันการลักลอบขนส่งสารเสพติดอย่างโอปิออยด์ โดยอ้างว่าแพ็กเกจขนาดเล็กมักได้รับการตรวจสอบน้อยกว่า แต่ฝั่งผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เห็นด้วยกลับโต้แย้งว่า ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าแพ็กเกจมูลค่าต่ำจะมีความเสี่ยงมากกว่าการขนส่งแพ็กเกจขนาดใหญ่
แน่นอนว่าผู้ที่มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือแพลตฟอร์มอย่าง SHEIN และ Temu ที่ต้องพึ่งพาการควบคุมต้นทุนให้ต่ำที่สุด และหากคำสั่งผู้บริหารของทรัมป์ถูกบังคับใช้ สินค้าราคาถูกเหล่านี้ก็อาจกลายเป็นแค่ความจริงในอดีต
อ้างอิง: