×

ครม. อนุมัติก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ทะลุถึงจีน

โดย THE STANDARD TEAM
04.02.2025
  • LOADING...
โครงการรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย ระยะทาง 357 กิโลเมตร เชื่อมต่อรถไฟลาว-จีน

วันนี้ (4 กุมภาพันธ์) จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้พิจารณาอนุมัติดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย กรอบวงเงิน 341,351.42 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 8 ปี (ปีงบประมาณ 2568-2575) โดยให้รัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายปี และให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้และค้ำประกันเงินกู้ให้ตามความเหมาะสม

 

ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ ซึ่งที่ผ่านมา ครม. มีมติเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-หนองคาย (โครงการระยะที่ 1) กทม.-นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 253 กม. วงเงิน 179,413 ล้านบาท โดยรัฐบาลรับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (ปีงบประมาณ 2560-2563) ซึ่งปัจจุบันโครงการระยะที่ 1 ล่าช้ากว่ากำหนด มีความคืบหน้าโดยรวมร้อยละ 35.74 ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2571

 

ส่วนโครงการระยะที่ 2 ประกอบด้วยการดำเนินการใน 2 ส่วน ได้แก่



1. การก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากโครงการระยะที่ 1 ที่จะเริ่มต้นที่จังหวัดนครราชสีมาไปจนถึงหนองคาย วงเงิน 335,665.21 ล้านบาท ระยะทาง 357.12 กม. ประกอบด้วย 5 สถานี ได้แก่ สถานีบัวใหญ่, บ้านไผ่, ขอนแก่น, อุดรธานี และหนองคาย โดยจะเริ่มก่อสร้างในปีงบประมาณ 2568 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2575 (รวม 8 ปี)

 

2. การก่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้านาทา วงเงิน 5,686.21 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นการก่อสร้างศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายสินค้าทางรถไฟทั้งขาเข้าและขาออกระหว่างทางขนาด 1 เมตรของรถไฟไทย และขนาดทางมาตรฐาน 1.45 เมตรของโครงการรถไฟลาว-จีน ในรูปแบบศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service)

 

สำหรับโครงการระยะที่ 2 เมื่อพิจารณา EIRR เชิงกว้าง กรณีโครงการระยะที่ 1 และ 2 พบว่ามีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 13.23 ซึ่งยังมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ อีกทั้งคณะกรรมการ รฟท. มีมติเห็นชอบโครงการระยะที่ 2 และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเห็นชอบรายงาน EIA ของโครงการระยะที่ 2 ด้วยแล้ว

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการว่า ขอให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท. เร่งรัดดำเนินโครงการระยะที่ 1 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากล่าช้ากว่าแผนมานานแล้ว นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. ยังกำชับให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ และมติ ครม. ที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในราชอาณาจักร

 

ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. มีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ

 

มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงรายการสินค้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และพิกัดอัตราศุลกากร ตามบัญชีท้ายประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2563

 

ร่างประกาศฉบับนี้เป็นการยกเลิกประกาศเดิมปี 2563 เพื่อปรับปรุงรายการสินค้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และพิกัดอัตราศุลกากรสำหรับของเสียอันตราย ภายใต้อนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของเสียอันตรายและการจำกัด จากระบบฮาร์โมไนซ์ ปี 2017 เป็นระบบฮาร์โมไนซ์ ปี 2022 จากเดิม 428 รายการเป็น 463 รายการ เพื่อลดปริมาณของเสียที่นำเข้ามากำจัดภายในประเทศ รวมทั้งช่วยลดมลพิษที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชน โดยให้ร่างประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising