วันนี้ (25 มกราคม) ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Phattarapong Leelaphat – ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์’ ถึงกรณีที่ กมธ.อากาศสะอาด เห็นชอบ นายก อบจ. นั่งประธานคณะกรรมการระดับจังหวัด ระบุว่า
“สำเร็จแล้วครับ ก้าวแรกของการกระจายอำนาจแก้ปัญหาฝุ่น ‘นายก อบจ.’ เป็นผู้นำแก้ปัญหาฝุ่นระดับจังหวัด เราทุกคนจะมีสิทธิเลือกคนที่จะมาแก้ปัญหาฝุ่นในจังหวัดของพวกเรา
“จากที่ผมได้ประชุม กมธ.อากาศสะอาด ในวันศุกร์ที่ผ่านมาได้มีวาระการลงมติเลือกตำแหน่ง ‘ผู้นำแก้ปัญหาฝุ่นระดับจังหวัด’ หรือประธานคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด โดยมีร่างของพรรคประชาชนที่เสนอให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นประธาน และมีร่างของคณะรัฐมนตรีที่เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
“ผลการลงมติของ กมธ.อากาศสะอาด เสียงส่วนใหญ่เห็นชอบให้นายก อบจ. นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานกรรมการอากาศสะอาดจังหวัดครับ ถือเป็นข่าวดี เป็นก้าวแรกของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
“หนึ่งในหลักการสำคัญของ พ.ร.บ. นี้ที่พวกเราตั้งใจคือ หลักการกระจายอำนาจให้กับท้องถิ่น คนที่รู้จักพื้นที่ของตนเองดีที่สุด การันตีการทำงานต่อเนื่องอย่างน้อย 4 ปี และมาจากการเลือกตั้งของประชาชน การที่กฎหมายกำหนดให้นายก อบจ. เป็นประธานคณะกรรมการ จึงสะท้อนหลักการที่เป็นรากฐานของ พ.ร.บ. ฉบับนี้ที่ให้ท้องถิ่นมีบทบาทจัดการมลพิษทางอากาศในพื้นที่ชัดเจนมากขึ้น
“แม้จะมีข้อกล่าวอ้างจาก กมธ. เสียงข้างน้อย ที่ว่าผู้ว่าฯ ควรเป็นประธานคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด เพราะมีอำนาจสั่งการหน่วยราชการส่วนภูมิภาคให้แก้ปัญหาฝุ่นได้นั้น ก็เป็นข้อกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากผู้ว่าฯ มีอำนาจดังกล่าวอยู่แล้วโดยไม่ต้องอาศัยกฎหมายฉบับนี้
“อีกทั้งการใช้อำนาจของคณะกรรมการจังหวัดมีลักษณะเป็นการใช้อำนาจแบบองค์กรกลุ่ม แม้นายก อบจ. จะเป็นประธาน ก็ไม่กระทบต่อการปฏิบัติตามของหน่วยงานส่วนภูมิภาคหรือส่วนกลาง เพราะหน่วยงานเหล่านั้นต้องผูกพันต่อมติของคณะกรรมการด้วยผลของกฎหมายตาม พ.ร.บ. นี้อยู่แล้ว ไม่ใช่การอาศัยอำนาจสั่งการจากผู้ว่าฯ และใน พ.ร.บ. ฉบับพรรคประชาชนนี้เราก็ระบุให้ผู้ว่าฯ เป็นผู้กำกับติดตามการทำงานของคณะกรรมการจังหวัดที่มีนายก อบจ. เป็นประธานอยู่ด้วยครับ
“ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกของการกระจายอำนาจเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 เพราะฉะนั้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ พวกเรามีโอกาสที่จะเลือกตั้งทั้งนายก อบจ. และคนที่จะเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาฝุ่นในจังหวัดของพวกเรา
“อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงความสำเร็จก้าวแรกในชั้น กมธ. เท่านั้น ฝากประชาชนทุกคนติดตามกฎหมายฉบับนี้กันต่อครับ เพื่อไม่ให้หลักการกระจายอำนาจที่เป็นจุดสำคัญในการแก้ปัญหาฝุ่นถูกตัดทอนไปในการพิจารณากฎหมายชั้นต่อไปครับ”
อ้างอิง: