ผู้สูงอายุที่สมัครโครงการแจกเงินหมื่นเฟส 2 ต้องผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 22 มกราคม 2568 เพื่อรอรับการจ่ายเงินในวันที่ 27 มกราคม 2568 ไม่สามารถรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับเบอร์โทรศัพท์ได้ และสามารถตรวจสอบสิทธิการได้รับเงินผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
วันนี้ (16 มกราคม) เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ที่ภาครัฐจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคน สามารถตรวจสอบสิทธิการได้รับเงินผ่านแอปทางรัฐได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป โดยกรอกบัญชีผู้ใช้หรือเลขประจำตัวประชาชน (Username) และรหัสผ่าน (Password) เพื่อ ‘เข้าสู่ระบบ’ ให้เรียบร้อยก่อน และกด ‘ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน’ โครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน Digital Wallet เพื่อเข้าสู่หน้าแสดงผลผู้มีสิทธิโครงการ
ย้ำต้องผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น!
เผ่าภูมิย้ำว่า ผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินในโครงการจะได้รับเงิน 10,000 บาทผ่านบัญชีเงินฝากที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น ซึ่งการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนสามารถผูกกับบัญชีเงินฝากของธนาคารใดก็ได้ โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นธนาคารของรัฐ
ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 22 มกราคม 2568 เพื่อรอรับการจ่ายเงินในวันที่ 27 มกราคม 2568
กรณีผู้สูงอายุมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนอยู่แล้ว ควรตรวจสอบกับธนาคารด้วยว่าบัญชีดังกล่าวยังคงมีสถานะปกติที่สามารถรับเงินโอนได้หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมรับเงินในวันที่ 27 มกราคม 2568
เปิดรอบจ่ายซ้ำ กรณีโอนไม่สำเร็จ
ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่
- ครั้งที่ 1: จ่ายเงินภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
- ครั้งที่ 2: จ่ายเงินภายในวันที่ 28 มีนาคม 2568 ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 25 มีนาคม 2568
- ครั้งที่ 3: จ่ายเงินภายในวันที่ 28 เมษายน 2568 ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 23 เมษายน 2568
ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ
โดยผู้ได้รับสิทธิในโครงการสามารถตรวจสอบผลการจ่ายเงินว่าตนได้รับโอนเงิน 10,000 บาท สำเร็จหรือไม่ ผ่านแอปทางรัฐได้ในวันถัดจากวันที่รัฐจ่ายเงิน (แสดงผลการจ่ายเงินครั้งแรกในวันที่ 28 มกราคม 2568)
เผ่าภูมิกล่าวเน้นย้ำให้ผู้สูงอายุที่ประเมินว่าตนเองมีคุณสมบัติเป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการ เร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือหากยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ขอให้ดำเนินการเพื่อให้พร้อมรับสิทธิตามโครงการ โดยสามารถติดต่อขอผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ในทันที
อนึ่ง เงินที่รัฐสนับสนุนจำนวน 10,000 บาทต่อคน ให้แก่กลุ่มเป้าหมายรวมจำนวนประมาณ 4 ล้านราย สามารถนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิต โดยไม่กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายแต่อย่างใด
เปิดช่องทางการสอบถามข้อมูล
- ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงินในโครงการ: แอปทางรัฐ
- เว็บเพจรวบรวมข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของโครงการ: เว็บไซต์กระทรวงการคลัง www.mof.go.th แบนเนอร์โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ (https://mof.go.th/th/detail/2024-12-27-15-36-42/2024-12-27-15-42-50)
- Call Center สำหรับสอบถามข้อมูลโครงการ: ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน สายด่วน 1111
ย้ำคุณสมบัติกลุ่มเป้าหมายอีกรอบ
- จะต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 สำเร็จ
- มีสัญชาติไทยและมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 กันยายน 2567 (เกิดก่อนหรือในวันที่ 16 กันยายน 2507)
- ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566
- ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567
- ไม่เป็นผู้อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
- ไม่เป็นผู้ต้องขัง 4 ประเภท ได้แก่ นักโทษเด็ดขาด, ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี, ผู้ต้องกักขัง และผู้ต้องกักกัน ตามฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567
- ไม่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ (หรือที่หลายคนเรียกว่าดิจิทัลวอลเล็ตเฟสแรก)