Toyota ประกาศความสำเร็จขั้นแรกของ Woven City เมืองทดลองสุดล้ำที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยงบประมาณมหาศาลถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.5 แสนล้านบาท) โดย Akio Toyoda ประธานบริษัท เปิดเผยในงาน CES 2025 ที่ลาสเวกัสว่า พร้อมรับผู้อยู่อาศัยกลุ่มแรกในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
ชื่อ Woven City มีที่มาจากธุรกิจดั้งเดิมของ Toyota ที่เริ่มต้นจากการผลิตเครื่องทอผ้า โดยเมืองต้นแบบแห่งนี้มุ่งพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับและแนวคิดแห่งอนาคตอื่นๆ สะท้อนให้เห็นถึงรากเหง้าและวิสัยทัศน์ของบริษัทที่พร้อมก้าวสู่อนาคต
ผู้อยู่อาศัย 100 คนแรกที่เรียกว่า ‘Weavers’ จะประกอบด้วยพนักงานและครอบครัวจาก Toyota และ Woven by Toyota บริษัทที่ดูแลการพัฒนาโครงการนี้ โดยจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนเป็น 360 คน และสุดท้ายจะรองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 2,000 คน
“เรามอง Woven City เป็นเหมือนสนามทดสอบด้านการเคลื่อนที่ ซึ่งเราสามารถพัฒนาโซลูชันได้หลากหลาย” Toyoda กล่าว “ตั้งแต่อุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนบุคคลอย่างรถเข็นแข่งสำหรับผู้พิการ ไปจนถึงโดรนที่คอยนำทางคุณกลับบ้านอย่างปลอดภัยในตอนกลางคืน หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงที่คอยให้การสนับสนุนและเป็นเพื่อนผู้สูงอายุ รวมถึงรถบินที่จะพาคุณเดินทางจาก Woven City ไปโตเกียว”
Woven City ได้รับการออกแบบโดย Bjarke Ingels สถาปนิกชื่อดังชาวเดนมาร์ก โดยแบ่งถนนออกเป็น 3 ประเภท แต่ละประเภทมีไว้สำหรับผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ได้แก่ ถนนสำหรับยานพาหนะความเร็วสูง ถนนสำหรับการเดินทางความเร็วต่ำและคนเดินเท้า และทางเดินสวนสาธารณะสำหรับคนเดินเท้าเท่านั้น
Woven City ใช้เทคโนโลยี Digital Twin ในการวิเคราะห์และคาดการณ์คุณลักษณะต่างๆ แบบเรียลไทม์ นอกจากการมุ่งเน้นเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและโซลูชันด้านการเคลื่อนที่แล้ว ผู้อยู่อาศัยยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับเมืองในรูปแบบเสมือนจริงได้ด้วย
นอกจากนี้ ทีมพัฒนากำลังสร้างอวตารเสมือนของ Toyoda ที่จะอาศัยอยู่ในพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการผสานโลกจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน
ในแง่พลังงาน เมืองนี้ใช้ไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงานหลัก แต่ก็กำลังศึกษาการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ การกักเก็บพลังงานในแบตเตอรี่ เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และแหล่งพลังงานอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อสร้างระบบพลังงานที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงสุด
เฟสแรกของ Woven City ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางเมตร และกำลังเริ่มก่อสร้างเฟสที่ 2 ซึ่งจะมีพื้นที่ 52,000 ตารางเมตร คาดว่าจะปรับพื้นที่แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ โดยเมื่อเสร็จสมบูรณ์ทั้งเมืองจะมีพื้นที่รวมประมาณ 708,000 ตารางเมตร
ที่น่าสนใจคือ Toyota วางแผนเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมเมืองในปี 2026 และจะเปิดโครงการเร่งการพัฒนา (Accelerator Program) ในช่วงฤดูร้อนนี้ เพื่อเชิญผู้ประกอบการ นักประดิษฐ์ และนักวิชาการ มาร่วมพัฒนาเมือง
แม้ Toyoda จะกล่าวว่า “Woven City อาจจะไม่ได้สร้างรายได้ให้ Toyota แต่นั่นก็ไม่เป็นไร เพราะในฐานะพลเมืองโลก ผมเชื่อว่า Toyota มีความรับผิดชอบที่จะต้องลงทุนเพื่ออนาคตร่วมกันของเรา” แต่ Hajime Kumabe ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยืนยันว่าบริษัทไม่สามารถดำเนินการโดยไม่มีกำไรได้
Toyota ยังประกาศลงทุน 7 พันล้านเยน (ประมาณ 1.54 พันล้านบาท) ผ่าน Woven by Toyota ใน Interstellar Technologies สตาร์ทอัพญี่ปุ่นที่มุ่งเน้นด้านจรวดปล่อยดาวเทียม แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขยายขอบเขตนวัตกรรมสู่อุตสาหกรรมอวกาศ
โครงการ Woven City ได้รับการรับรอง LEED for Communities Platinum ระดับสูงสุดเป็นแห่งแรกในญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานด้านความยั่งยืนและคุณภาพชีวิตสูง
โครงการนี้ถือเป็นการยกระดับแนวคิดเมืองอัจฉริยะไปอีกขั้น แตกต่างจากสนามทดสอบทั่วไปที่จำลองเมืองขึ้นมา หรือเมืองของบริษัทแบบที่ Elon Musk กำลังสร้างในเท็กซัส เพื่อให้พนักงาน Tesla และ SpaceX อาศัย
Woven City จะเป็นเมืองจริงที่มีผู้คนอาศัยอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์แห่งอนาคตของ Toyota โดยเน้นการทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน ซึ่งอาจเป็นต้นแบบให้กับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญคือการรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนานวัตกรรมและความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย หลังจากที่โครงการคล้ายกันของ Google ในโทรอนโตต้องยุติลง เพราะข้อกังวลเรื่องการเฝ้าระวังและการเก็บข้อมูล Toyota จึงต้องระมัดระวังและให้ความสำคัญกับประเด็นนี้เป็นพิเศษ
อ้างอิง: