เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research ประเมินผลประกอบการ 4Q67 ของกลุ่มธนาคาร โดยคาดว่ากำไรจะลดลง 14%QoQ แต่จะเพิ่มขึ้น 6%YoY ทั้งนี้ เมื่อเทียบ QoQ คาดว่าธนาคารทุกแห่งจะรายงานกำไร 4Q67 ลดลง โดยเกิดจาก NIM ที่ลดลง (จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยนโยบาย) และ OPEX ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ขณะที่เมื่อเทียบ YoY คาดว่า Credit Cost ที่ลดลงของกลุ่มธนาคารจะหักล้างกับ NIM ที่หดตัวลงใน 4Q67 โดยกำไรจะมีทิศทางที่แตกต่างกันในแต่ละธนาคาร
รายการที่สำคัญใน 4Q67:
- Credit Cost: คาดว่า NPL จะไหลเข้าช้าลง ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยคาดว่า Credit Cost 4Q67 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ และลดลง YoY (จากการตั้งสำรอง Management Overlay น้อยลง)
- NIM: ใน 4Q67 NIM ของกลุ่มธนาคารจะลดลง 10 bps QoQ ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ หลังจากที่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps ในเดือนตุลาคม ธนาคารส่วนใหญ่ก็ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง 12.5-25 bps แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ไม่เปลี่ยนแปลง
ในขณะที่ BBL แตกต่างจากธนาคารอื่นๆ ตรงที่ปรับลดทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (20 bps สำหรับ MLR และ MOR และ 5 bps สำหรับ MRR) และอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (10 bps สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ และ 20 bps สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ) ซึ่งจะส่งผลทำให้ NIM หดตัวลงน้อยกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ
- การเติบโตของสินเชื่อ: คาดว่าสินเชื่อของกลุ่มธนาคารจะเติบโตเล็กน้อย QoQ ใน 4Q67 ทั้งนี้ ณ เดือนพฤศจิกายน สินเชื่อของกลุ่มธนาคารเติบโต 0.4% QTD แต่ยังคงหดตัว 1.7%YTD และ 1.4%YoY สำหรับปี 2567 คาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อกลุ่มธนาคารลดลง 2% โดยคาดว่าจะมีแค่ BBL และ KTB ที่จะมีการเติบโตของสินเชื่อเป็นบวกที่ 1% ในปี 2567 หลักๆ เกิดจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และสินเชื่อกิจการต่างประเทศสำหรับ BBL และสินเชื่อภาครัฐสำหรับ KTB
- Non-NII: คาดว่าธนาคารส่วนใหญ่จะรายงาน Non-NII เพิ่มขึ้น QoQ โดยได้แรงหนุนจากกองทุนรวมและธุรกิจ Bancassurance
- อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: คาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ (OPEX เพิ่มขึ้นตามฤดูกาลและรายได้ลดลง) และ YoY
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร (SETBANK) ปรับขึ้น 0.59% ราคาหุ้น BBL ปรับขึ้น 0.99% ขณะที่ SET Index ปรับลง 5.46% สู่ 1,372.65 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2568:
ในปี 2568 คาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว โดยเกิดจากสินเชื่อที่เติบโต 1% NIM ที่หดตัวลง 15 bps จากการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก (ใช้สมมติฐานการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง 25 bps และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำลดลง 50 bps) Credit Cost ที่ลดลง และ Non-NII ที่เติบโตเล็กน้อย
InnovestX Research ยังคงเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร เนื่องจาก Valuation น่าสนใจ และมีโอกาสปรับอัตราการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง, ความเสี่ยงด้าน NIM จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก และความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม
Cafe Invest แหล่งรวมข้อมูลการลงทุนและบทวิเคราะห์คุณภาพโดย InnovestX 🚀 คลิกเลย 👉 หุ้นกลุ่มธนาคาร – พรีวิว 4Q67 NIM ลดลง, OPEX สูงขึ้น