วานนี้ (24 ธันวาคม) ที่พรรคพลังประชารัฐ อัคร ทองใจสด สส. เพชรบูรณ์ ในฐานะรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยมีกรรมการบริหารและแกนนำที่มี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุมว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พล.อ. ประวิตร เปิดโอกาสให้คณะผู้บริหารพรรค, สส. และสมาชิกพรรค ร่วมสวัสดีปีใหม่ โดยหัวหน้าอวยพรส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยขอให้ทุกคนมีความมั่นคง มีความรัก ความสามัคคี ให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
จากนั้นที่ประชุมพิจารณาและติดตามความคืบหน้าในการศึกษาหาแนวทางการเข้าไปแก้ไขปัญหา โดยมีประเด็นเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์เชื่อมท่าเรือตะวันออกกับภาคอีสาน ซึ่งเป็นโครงการที่พรรค พปชร. จะผลักดันในการพัฒนาภาคอีสาน โดยขอให้เป็นโครงการนำร่อง เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดในภาคอื่นๆ ตามแนวทางของแต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ที่ประชุมนำเสนอให้ศึกษาเพิ่มเติม โดยเฉพาะการเพิ่มทักษะด้านภาษาให้กับเยาวชนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา โดย พล.อ. ประวิตร เน้นย้ำในเรื่องการพัฒนาด้านการศึกษาที่เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศในอนาคต ไม่น้อยไปกว่าการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยที่ต้องสอดรับในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งการพัฒนาฝีมือแรงงานให้เข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่
อัครกล่าวต่อว่า ปัจจุบันไทยยังต้องนำเข้าเทคโนโลยีที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับ โดยเฉพาะกลุ่มอาชีวศึกษา เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานด้านเทคโนโลยีให้มากยิ่งขึ้น โดยจะลงรายละเอียดในแผนงานและนโยบายของพรรคที่จะพลิกอีสาน สร้างโอกาสใหม่ สู่อนาคตสดใส กับพลังประชารัฐ ใน 7 ด้าน คือ
1. อีสานติดทะเล
2. อีสานเป็นหน้าบ้านสู่จีน
3. อีสานอาหารสมบูรณ์
4. อีสานน่าเที่ยว
5. อีสานดิจิทัล
6.อีสานอินเตอร์
7.อีสานน่าอยู่
ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในหัวข้อหลักที่จะนำไปจัดสัมมนาของพรรคที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคม 2568 โดยจะกำหนดทิศทางวางนโยบายของพรรค เพื่อนำไปบอกกล่าวให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
อัครยังกล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังพิจารณาถึงประเด็นในเรื่องการยกเลิก MOU 44 ซึ่งทางศูนย์วิชาการนโยบายพรรค นำโดย สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ และ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่ปรึกษาศูนย์นโยบายและวิชาการ เดินทางไปพบปะประชาชนในพื้นที่จังหวัดตราด โดยได้รับความสนใจจากประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่ห่วงใยในประเด็นนี้
โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพประมงที่ต้องประกอบอาชีพจับปลาในพื้นที่บริเวณเกาะกูดตอนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงของการจับกุมเรือประมง เพราะกัมพูชาถือว่าเป็นเขตแดนของตนเอง เรื่องนี้ต้องขับเคลื่อนและติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งในสภาและนอกสภา เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขและรักษาอธิปไตยของประเทศ อีกทั้งในที่ประชุมฯ ยังมีมติจะไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญและไม่รับร่างใดๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนี้พรรคพลังประชารัฐยังมีมติกำหนดวันจัดสัมมนาพรรคในโครงการสัมมนาพลังประชารัฐ Power of Thailand ระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม 2568 ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจะสัมมนาในหัวข้อสำคัญๆ ที่เป็นนโยบายของพรรคเพื่อจะให้ สส. และว่าที่ผู้สมัครนำไปเผยแพร่และทำความเข้าใจกับประชาชนแต่ละพื้นที่ รวมถึงเป็นนโยบายหาเสียงด้วย