วันนี้ (23 ธันวาคม) ที่อาคารรัฐสภา วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายา ‘รัฐบาลพ่อเลี้ยง’ โดยระบุว่า ก็ดี เพราะภาคเหนือถ้าใครบอกว่าเป็นลูกพ่อเลี้ยงถือว่าเกิดมามีบุญ มีเงิน วาสนาดี จึงเห็นว่าเป็นเรื่องดี อย่าไปคิดมาก และมองว่าฉายานี้ใช้ได้เลย ไม่น่ากังวลอะไร
“เป็นมงคลชีวิตที่เป็นลูกพ่อเลี้ยง เพราะคนภาคเหนือเวลาเดินไปไหนถ้าบอกเป็นลูกพ่อเลี้ยงก็จะยิ้มด้วยความยินดี”
ส่วนที่มองว่าพ่อมาช่วยทำงานตลอดนั้น วิสุทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องดี เพราะ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2544 มีผลงานมากมาย ก็เอาประสบการณ์มาบอกกับลูกสาว ถือเป็นเรื่องปกติ และคิดว่าไม่มีครอบครัวไหนที่พ่อจะไม่บอก หรือเอ็นดู หรือเป็นห่วงลูก จึงเห็นว่าเป็นเรื่องดี
วิสุทธิ์ชี้ว่า แม้แต่ประเทศมาเลเซียยังตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษา เพราะว่าเขามองเห็นถึงความสามารถ ซึ่งความเห็นของทักษิณ เมื่อฝ่ายบริหารซึ่งประกอบด้วยหลายพรรคฟังแล้วก็คงต้องนำมาปรับ เพราะบางอย่างที่ทำไว้เมื่อ 20 ปีก่อนสำเร็จอย่างรวดเร็ว แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยน ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทัน ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องบวก รัฐบาลได้ประโยชน์ ดังนั้นปรึกษาได้ เพราะหลายหัวดีกว่าหัวเดียว
ส่วนฉายานายกรัฐมนตรี ‘แพทองโพย’ วิสุทธิ์กล่าวว่า การถือโทรศัพท์มือถือและการเปิดข้อมูลเป็นเรื่องที่ดี เพราะนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บริหารกำกับทุกกระทรวง หลายร้อยกรมทั่วประเทศ เชื่อว่าคงไม่รู้หมดทุกเรื่อง จึงต้องมีการเก็บข้อมูล เช่นเดียวกับ สส. ในสภาทุกคนก็มี iPad หรือโน้ตบุ๊กไว้ดูข้อมูล เพราะการจะตอบอะไรต้องชัดเจน หากนายกรัฐมนตรีพูดอะไรไม่ชัดเจนหรือไม่ใช่ข้อมูลข้อเท็จจริงก็อาจจะมีปัญหาและโดนต่อว่าได้
ดังนั้นการถือ iPad เป็นเรื่องปกติ นักข่าวก็ถือกันทุกคน โดยรวมไม่กระทบกับภาพลักษณ์ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี กลับเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ ตอนนี้คนยุคใหม่ไม่ว่าจะประเทศไหนไปไหนก็ถือ iPad เรื่องค้นความรู้เรื่องราวต่างๆ ที่จะมาตอบ คนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่สามารถรู้และจำทุกเรื่องในหัวได้ทั้งหมด พร้อมทิ้งท้ายว่าฉายาเป็นเรื่องเล็ก เดี๋ยวก็ลืม ปีหน้าค่อยตั้งกันใหม่