วันนี้ (23 ธันวาคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งฉายารัฐบาลของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลว่า สำหรับฉายานายกรัฐมนตรี ‘แพทองโพย’ ตนมองว่า คุณอุ๊งอิ๊งชื่อแพทองธาร การเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ที่เนื้อหา อยู่ที่วิสัยทัศน์ การสื่อสารต้องมีข้อมูลมีโพยบ้าง อย่าไปถือสาหรือไปติดใจอะไรแบบนี้เลย ให้ดูการทำงานดีกว่าว่ามีกลยุทธ์หรือมีการบริหารจัดการคณะรัฐมนตรี บริหารอย่างไรให้องคาพยพสามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน อย่าติดที่ฟอร์มเล็กๆ น้อยๆ ดูที่เนื้อหาดีกว่า ตนรู้จักกับคุณแพทองธารมานาน แกชื่อแพทองธาร ไม่ใช่แพทองโพย และฉายาอะไรที่ตนคิดว่าไปด้อยค่าหรือเป็นเรื่องส่วนตัวตนก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร เขาก็คงพยายามตั้งใจทำงานเต็มที่ ถือโอกาสปีใหม่ก็เป็นกำลังใจให้กับคุณแพทองธารด้วย และก็ให้คุณณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง พิธากล่าวว่า ถ้าในเชิงการเมืองในอาเซียนมักจะมีผู้นำตัวแทน หรือเรียกว่า Proxy Readership ทุกประเทศในอาเซียนตอนนี้ก็จะเหมือนว่ามีพ่ออยู่แล้ว ก็จะมีลูกเป็นผู้นำประเทศ อันนี้เป็นคำถามระดับนานาชาติที่คิดว่าคุณแพทองธารต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นตัวของตัวเอง สามารถคิดได้ด้วยตัวเอง ตั้งยุทธศาสตร์ได้ด้วยตัวเอง บริหารคนได้ด้วยตัวเอง ก็ตอบโจทย์ความท้าทายและศักยภาพของประเทศได้ด้วยตัวเอง ก็จะทำให้คำสบประมาทนี้หายไป
“ที่สำคัญคือจะต้องโชว์ให้เห็นว่าเขาไม่ได้ต้องพึ่งบารมีความคิดของคุณพ่อเขาหรือคุณทักษิณ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทักษิณมีอิทธิพลเหนือแพทองธารมากใช่หรือไม่ พิธากล่าวว่า ทุกวันนี้ขึ้นอยู่กับคุณแพทองธารว่าจะพิสูจน์อย่างไร จะสามารถเป็นตัวของตัวเองได้โดยไม่ต้องรอคุณพ่อ เพราะหลายๆ เรื่องที่พูดคุยกันมาก็ไม่ได้ออกมาจากปากคุณแพทองธาร
ทั้งนี้ ตนในฐานะที่รู้จักกันมานาน ขอแนะนำให้คุณแพทองธารใช้เวทีสภาให้เป็นประโยชน์ แสดงภาวะผู้นำให้เป็นประโยชน์ เพราะคุณทักษิณลงพื้นที่ปราศรัยหลายพื้นที่แล้วก็มีการโชว์วิสัยทัศน์
แต่ในขณะเดียวกันพื้นที่ที่เป็นพื้นที่คุณแพทองธารเข้าได้และคุณทักษิณเข้าไม่ได้ ตนก็เข้าไม่ได้คือรัฐสภา ดังนั้นถ้าผู้นำฝ่ายค้านใช้กลไก คุณแพทองธารควรใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ เข้าสภาบ่อยๆ จะได้โชว์ภาวะผู้นำ โชว์วิสัยทัศน์ ความเป็นตัวของตัวเองให้คนไทยได้ทราบ เชื่อว่าครบปีหน้าคำว่า ‘รัฐบาลพ่อเลี้ยง’ ก็จะหมดข้อครหาไปในตัว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ฉายา ‘ทวี ไอพี’ พิธากล่าวว่า ตนคิดถึงคุณทวีช่วงที่เคยเป็นฝ่ายค้านด้วยกันมา อย่างเรื่องเกี่ยวกับเขากระโดง เขาก็เริ่มต้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และจำได้ว่าคุณทวีมีบทบาทเยอะกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ตอนนี้ทุกเรื่องกลับมาเป็นเรื่องใหญ่ แต่ยังไม่เคยได้ยินคุณทวีพูดถึงเลย รวมถึงเรื่อง สุนทร วิลาวัลย์ ที่ปราจีนบุรีด้วย
“ผมจึงอยากเห็นพี่ทวีคนเดินกลับมา ว่าตอนที่เป็นฝ่ายค้านได้พูดเรื่องนี้ฉะฉาน มีข้อมูลเยอะ พอมันมีคำถามพวกนี้ขึ้นมา ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ต้องยุติธรรม ผมก็รอพี่ทวีในปีหน้าอยู่”
เมื่อถามว่าแสดงว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ยุติธรรมใช่หรือไม่ พิธาตอบว่า “มันยุติธรรมได้มากกว่านี้”