วันนี้ (18 ธันวาคม) ชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำนักสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานเขต บริหารจัดการขยะในงานกาชาดประจำปี 2567 ตามแนวทางไม่เทรวมและกรีนอีเวนต์ โดยขอความร่วมมือจากประชาชนผู้มาเที่ยวงาน หน่วยงาน และร้านค้า ร่วมกันคัดแยกขยะ
พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำการคัดแยกขยะ ซึ่งตั้งจุดรับและแยกขยะ ใช้ถังชนิดห่วงถุงใส เพื่อรองรับขยะมูลฝอยจากประชาชนจำนวน 40 จุด กระจายทั่วงาน เพื่อให้ทุกคนสามารถทิ้งขยะลงถังได้ถูกประเภท ประกอบด้วย ขยะรีไซเคิล ขยะอินทรีย์ และขยะทั่วไป รวมถึงแยกทิ้งน้ำ น้ำแข็ง และหลอดดูดน้ำ แยกทิ้งตะเกียบและไม้เสียบลูกชิ้น ตลอดจนแยกขวดพลาสติกใสด้วย
โดยเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครจากสำนักงานเขตต่างๆ ซึ่งหมุนเวียนกันมาปฏิบัติงานในแต่ละวัน จะช่วยกันดูแล จัดเก็บขยะ และกวาดทำความสะอาดพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมคืนพื้นที่ให้ประชาชนผู้ใช้สวนลุมพินี และประชาชนผู้มาร่วมงานกาชาดในวันรุ่งขึ้น
ในส่วนของขยะที่ได้รับการคัดแยกเรียบร้อยแล้วจะถูกนำไปใช้ประโยชน์และกำจัดอย่างถูกวิธี ได้แก่ ขยะเศษอาหาร รวบรวมไว้ ประสานเกษตรกรนำไปเลี้ยงสัตว์ นำไปหมักทำปุ๋ยหรือใช้ประโยชน์, ขยะรีไซเคิล นำไปจำหน่าย รายได้ทั้งหมดที่ได้รับ กรุงเทพมหานครจะมอบให้กับสภากาชาดไทย เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสภากาชาดไทย และขยะทั่วไป เก็บรวบรวม ส่งไปกำจัดอย่างถูกสุขลักษณะ
ทั้งนี้ จากการจัดงานวันแรกเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 จนถึงเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 รวมระยะเวลา 7 วัน กรุงเทพมหานครจัดเก็บขยะได้ทั้งหมด 182 ตัน หรือ 182,008 กิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 182 กิโลกรัม แบ่งเป็นขยะทั่วไป 168,533 กิโลกรัม (92.6%), ขยะรีไซเคิล 1,998.6 กิโลกรัม (1.1%) และขยะเศษอาหาร 11,476.2 กิโลกรัม (6.3%)
ชาตรีกล่าวต่อว่า กรุงเทพมหานครขอขอบคุณประชาชน หน่วยงาน และร้านค้า ที่ช่วยกันคัดแยกขยะและทิ้งในจุดที่จัดเตรียมไว้ ทำให้สามารถบริหารจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นแนวทางในการบริหารจัดการขยะในงานอีเวนต์ตามแนวทางไม่เทรวมต่อไป โดยระยะเวลาการจัดงานอีก 5 วัน กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือประชาชนคัดแยกทิ้งขยะให้ถูกประเภท และทิ้งในจุดที่จัดเตรียมไว้ดังเช่นที่ผ่านมา เพื่อความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย และสิ่งแวดล้อมที่ดี