วันนี้ (23 พฤศจิกายน) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ ที่ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ที่กล่าวหาว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯ ว่า ต้องแยกให้ดีก่อน เรื่องของบุคคลก็เป็นของบุคคลไป รัฐบาลต้องทำงานอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จะมีอุปสรรคหรือความราบรื่นใดๆ ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเผชิญอยู่ทุกวัน ไม่มีปัญหาใดๆ ไม่ว่าใครจะประสบปัญหาอะไรรัฐบาลก็ยังอยู่บริหารประเทศ
เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับคำว่าล้มล้างการปกครอง เนื่องจาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น ออกมาระบุว่า การรวมร่างการปกครองมีแต่รัฐประหารเท่านั้น อนุทินกล่าวว่า อืม ในช่วงสุดสัปดาห์อย่าเพิ่มอะไรหนักๆ ให้กับประชาชน เนื่องจากอยากให้เสพข่าวเบาๆ ไม่มีหรอกการล้มล้างการปกครอง จากนี้ไปคงไม่มีแล้ว ไม่มีใครมีความสามารถที่จะทำได้ คนไทยทุกคนมีความสามัคคีกัน ใครก็มาล้มล้างไม่ได้
เมื่อถามต่อว่าการที่ธีรยุทธออกมาระบุว่าจะมีการร้องเรียนเรื่องใหม่ๆ นั้น อนุทินกล่าวว่า เราห้ามคนร้องเรียนไม่ได้ สำคัญอยู่ที่เจตนารมณ์หรือการกระทำที่กระทำไปถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เป็นไปตามระเบียบแบบแผนหรือไม่ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามนั้น เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติก็ทำไป ไม่ต้องเหลียวหลัง ไม่มีทางผิด
ยันสนาม อบจ. ไม่มีพื้นที่ใคร
อนุทินกล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หลายจังหวัดในสัปดาห์นี้ มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคเพื่อไทยมีความพยายามที่จะเจาะพื้นที่อีสานตอนใต้ ซึ่งเป็นของพรรคภูมิใจไทยว่า ไม่มีพื้นที่ของใครทั้งนั้น ทุกพื้นที่เป็นของประชาชน ประเทศไทยเป็นของประชาชน คนไหนที่มีความสามารถที่ทำให้ประชาชนเชื่อว่าจะสามารถทำประโยชน์และพัฒนาบ้านของเขาได้ ในการเป็นนายก อบจ., สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกสภาเทศบาล หรือสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไม่มีเป็นพื้นที่ของใคร เพราะคนที่จะอาสาสมัครเข้าไปทำหน้าที่รับใช้บ้านเมืองต้อง Hard Sell ว่าจะทำอะไรให้ประชาชนได้บ้าง ถ้าประชาชนเชื่อใจก็เลือก เป็นรอบๆ ไป การเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะเป็นของคนโน้น ซึ่งก็ไม่มีการการันตีว่าจะเป็นตลอดกาล