×

AOT – ผลประกอบการ 4QFY67 ตามคาด

22.11.2024
  • LOADING...
AOT

เกิดอะไรขึ้น:

 

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) รายงานกำไรสุทธิ 4QFY67 (กรกฎาคม-กันยายน 2567) ที่ 4.3 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 24%YoY แต่ลดลง 6%QoQ) และหากหักรายการพิเศษ (ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์) ออกไป พบว่ากำไรปกติอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 20%YoY แต่ลดลง 5%QoQ) เป็นไปตามคาด 

 

กำไรที่เติบโต YoY ได้แรงหนุนจากจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นสู่ 18.1 ล้านคนใน 4QFY67 (เพิ่มขึ้น 20%YoY และ 2%QoQ, 87% ของระดับก่อนเกิดโควิด) ในขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ สะท้อนถึงรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ลดลง หลังบริษัทขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ เพื่อปรับปรุงการให้บริการผู้โดยสาร (เดือนกรกฎาคม), หยุดประกอบกิจการร้านค้าปลอดอากรขาเข้า (เดือนสิงหาคม) และการประกาศล่าสุด เรื่อง การคืนค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ให้แก่ผู้รับสัมปทาน เพราะมีการขอคืนพื้นที่ 

 

สำหรับปี FY2567 AOT รายงานกำไรปกติ 1.95 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 111%YoY AOT ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.79 บาทต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานปี FY2567 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 1% ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 4 ธันวาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 AOT เปิดเผยว่า บริษัทขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์สำหรับร้านค้าย่อยบางส่วนจากผู้รับสัมปทานคือ คิง เพาเวอร์ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 

 

โดยในเบื้องต้น AOT ตกลงที่จะจัดหาพื้นที่ทดแทนที่มีขนาดเท่ากันให้กับ คิง เพาเวอร์ แต่เนื่องจากปัจจุบันไม่มีพื้นที่เหลือที่มีขนาดใหญ่เพียงพอ AOT จึงไม่สามารถจัดสรรพื้นที่ได้ตามที่ต้องการ 

 

ดังนั้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 AOT จึงได้ดำเนินการขอคืนพื้นที่ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ และคืนค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ ~337 ล้านบาท เป็นระยะเวลาถึงเดือนกันยายน 2567 โดยการขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการฯ จะทำให้ค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อผู้โดยสารสำหรับสัมปทานร้านค้าย่อยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดลง 5% ดังนั้น InnovestX Research จึงปรับประมาณการกำไรปกติของ AOT ลดลง ~1% ตั้งแต่ปี FY2568 เป็นต้นไป ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผลกระทบต่อกำไรมีจำกัด 

 

กระทบอย่างไร:

 

ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น AOT ปรับขึ้น 3.80% สู่ 61.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 0.14% สู่ 1,440.66 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการปี FY2568:

 

InnovestX Research คาดการณ์กำไรปกติของ AOT ที่ 2.3 หมื่นล้านบาทในปี FY2568 หรือเติบโต 18% โดยอิงกับการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้นจาก 72.7 ล้านคนในปี FY2567 มาอยู่ที่ 84 ล้านคนในปี FY2568 หรือเติบโต 16% สู่ 100% ของระดับก่อนเกิดโควิดสำหรับ 1QFY68 (ตุลาคม-ธันวาคม 2567) โดยประเมินว่ากำไรปกติของ AOT จะเติบโต YoY และ QoQ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศในเดือนตุลาคมและวันที่ 1-16 พฤศจิกายน อยู่ที่ 100% และ 105% ของระดับก่อนเกิดโควิด ตามลำดับ 

 

กลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ AOT โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 72 บาทต่อหุ้น (เพิ่มขึ้นจากราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 70 บาทต่อหุ้น จากการปรับปีฐานที่ใช้ประเมินราคาเป้าหมายเป็นปี 2568) โดยอิงกับ WACC ที่ 7.5% และการเติบโตระยะยาวที่ 2% 

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะทำให้ความต้องการเดินทางลดลง ความเสี่ยงประเด็นสำคัญด้าน ESG คือ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม (E) และประเด็นด้านสังคม อาทิ ความปลอดภัย (S)

 

☕️ ‘CafeInvest’ แหล่งรวมข้อมูลการลงทุนและบทวิเคราะห์คุณภาพโดย InnovestX 🚀 คลิกเลย 👉 AOT – ผลประกอบการ 4QFY67 ตามคาด

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X