วันนี้ (19 พฤศจิกายน) ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 5/2567 โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรายงานผลการดำเนินการและจัดประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (คณะกรรมการฯ) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการแก้กฎหมายเร่งด่วนเพื่อช่วยผู้เสียหายและป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเร่งดำเนินการยกร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ฉบับที่ 2 ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และเพิ่มความรับผิดชอบผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคม 2567 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการปรับเป็นพินัยกับผู้ให้บริการโทรคมนาคม หรือ ISP ที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมาย โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ให้บริการโทรคมนาคมจำนวน 4 ราย และมีคำสั่งปรับเป็นพินัยผู้ให้บริการโทรคมนาคมจำนวน 4 ราย รวมมูลค่าทั้งสิ้น 677,500 บาท
ส่วนการปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์และมีคดีที่สำคัญ รวมทั้งเร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องในช่วงระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2567 มีการจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์รวมทุกประเภทจำนวน 1,945 ราย ซึ่งลดลงร้อยละ 22.04 เมื่อเทียบกับการจับกุมก่อนดำเนินการตามมาตรการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 ขณะที่การจับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์ในเดือนสิงหาคม 2567 มีการจับกุมจำนวน 732 ราย ซึ่งลดลงร้อยละ 31.20 เมื่อเทียบกับการจับกุมก่อนดำเนินการตามมาตรการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567
การจับกุมคดีบัญชีม้าในเดือนสิงหาคม 2567 มีการจับกุมจำนวน 122 ราย ซึ่งลดลงร้อยละ 49.17 เมื่อเทียบกับการจับกุมก่อนดำเนินการตามมาตรการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งมีการจับกุมเฉลี่ยในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการจับกุมคดีที่สำคัญในเดือนสิงหาคม 2567 ได้แก่ การจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมจำนวน 4 ราย อันเป็นผลมาจากการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องในการจับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ เครือข่ายแม่มนต์ ซึ่งมีเงินหมุนเวียนกว่า 5 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ในภาพรวมการจับกุมในเดือนสิงหาคม 2567 พบว่า มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับการจับกุมในช่วงก่อนดำเนินการตามมาตรการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 โดยเฉพาะการจับกุมบัญชีม้า ซิมม้า ที่ลดลงถึงร้อยละ 49.17 ซึ่งคณะกรรมการฯ กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการอย่างต่อเนื่องต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ยังปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนัน โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ผิดกฎหมายระยะเวลา 11 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 สิงหาคม 2567 เทียบกับการดำเนินงานช่วงเวลาเดียวกันในปีงบประมาณที่ผ่านมา โดยสรุปผลมีการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายทุกประเภทจำนวน 138,660 รายการ เพิ่มขึ้น 11 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2566 ที่ปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายทุกประเภทจำนวน 12,591 รายการ
ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัดและตัดตอนการโอนเงิน มีการระงับบัญชีม้าสะสมถึงเดือนสิงหาคม 2567 รวมกว่า 1 ล้านบัญชี แบ่งเป็นสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินปิด 450,000 บัญชี ธนาคารระงับเอง 300,000 บัญชี ศูนย์ AOC ระงับ 291,256 บัญชี และธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยดำเนินการยกระดับการป้องกันการเปิดบัญชีและการจัดการบัญชีม้า โดยเฉพาะบุคคลที่ยินยอมเปิดบัญชีธนาคารให้คนร้ายใช้ เช่น การออกมาตรการระงับบัญชีของผู้ที่เปิดบัญชีให้คนร้ายทุกบัญชี และการใช้มาตรการเพื่อตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence: CDD) ตามระดับความเสี่ยงของผู้เปิดบัญชีใหม่