เมื่อวานนี้ (26 ตุลาคม) อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ระบุว่า ตามที่สื่อมวลชนเกือบทุกฉบับเสนอข่าวว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเล็งคาดโทษอัจฉริยะเนื่องจากละเมิดพื้นที่เรือนจำฯ โดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จว่าตนเองเข้าไปในห้องสอบสวนด้วยวิธีตีเนียนเข้าไปร่วมรับฟังการสอบสวนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และผิดระเบียบกรมราชทัณฑ์ พร้อมอ้างว่ารักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ข่าว ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
อัจฉริยะชี้แจงว่า การเข้าไปในห้องสอบสวนนั้นทำหนังสือถูกต้อง และได้รับอนุญาตจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แล้ว หาใช่เป็นการตีเนียนตามที่สื่อมวลชนลงข่าวแต่อย่างใด การลงข่าวเท็จทำให้ตนเองได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากพี่น้องประชาชนที่อ่านข่าวนี้จากสื่อมวลชน จึงขอยืนยันว่าหากตนเองทำผิดกฎหมาย ขอให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินคดีตามกฎหมายกับตนเองได้เลย
อัจฉริยะระบุด้วยว่า การลงข่าวของสื่อมวลชนในครั้งนี้เป็นข้อมูลเท็จ เพราะตนเองไม่ได้ถูกเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ดำเนินการตามกฎหมาย หรือตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ว่าถูกตั้งกรรมการสอบหรือมีการคาดโทษ หากสื่อทุกฉบับที่ลงข่าวนี้ไม่แก้ไขให้ถูกต้องตรงกับความจริงที่ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ตนเองจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องบังคับใช้กฎหมายกับสื่อมวลชนต่อไป
ทั้งนี้ การชี้แจงดังกล่าวสืบเนื่องจากสื่อมวลชนหลายสำนักรายงานว่า ปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าอัจฉริยะ ซึ่งไม่ได้เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี หรือได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายความ/ที่ปรึกษากฎหมายของ โค้ชแล็ป-จิระวัฒน์ แสงภักดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เข้าไปนั่งอยู่ในห้องพนักงานสอบสวนของเรือนจำฯ เป็นพฤติการณ์ละเมิดพื้นที่ของเรือนจำฯ หรือไม่