คนที่อยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ หรือสนใจข่าวสารทางด้านนี้ คงน่าจะพอได้ยินข่าวเกี่ยวกับโครงการคอนโดมิเนียมแบบไฮไรซ์ความสูง 25 ชั้น จำนวน 77 ยูนิต บนถนนวิทยุ ซึ่งก็คือ โครงการ ‘98 Wireless’ กันมาบ้างว่าเป็นคอนโดมิเนียมระดับ ‘ซูเปอร์ลักซูรี’ ที่พัฒนาขึ้นโดย Developer ชั้นนำของประเทศไทยอย่าง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และที่สำคัญคือเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมที่มีราคาสูงที่สุดในประเทศไทย แต่หลายคนก็ยังคงนึกสงสัยและตั้งคำถามว่า เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น? ซึ่งแม้จะบอกว่าที่นี่เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมที่ใช้เวลาในการพัฒนานานถึง 7 ปีจึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ ทั้งยังใช้เงินลงทุนมหาศาล มีมูลค่าโครงการกว่า 8,500 ล้านบาท แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลเพียงเท่านั้น

     THE STANDARD ไขความลับค้นหาคำตอบของคำถามดังกล่าวมาแล้ว และต่อไปนี้คือ 7 เหตุผลอันน่าทึ่งที่ทำให้โครงการ ‘98 Wireless’ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่มีราคาสูงที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้   

 

 

1. โลเคชัน CBD (Central Business District) ใจกลางเมือง กรรมสิทธิ์ฟรีโฮลด์ผืนสุดท้ายบนถนนวิทยุ

     โครงการ 98 Wireless ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ถนนเศรษฐกิจสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเปรียบได้กับย่าน ‘Fifth Avenue’ ของมหานครนิวยอร์ก โดยอยู่ใกล้ทั้งแหล่งช้อปปิ้งไฮเอนด์ ร้านอาหารหรูชื่อดัง โรงแรมระดับเวิลด์คลาส ตลอดจนอาคารสำนักงานไฮเอนด์ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลของนานาประเทศอีกด้วย รวมถึงศูนย์การแพทย์ระดับชั้นนำที่กำลังได้รับการพัฒนาอยู่

     ทั้งนี้ถนนวิทยุยังเป็น ‘บูเลอวาร์ด’ (Boulevard) หรือถนนที่สวยงามที่สุดเส้นหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ด้วยมีทิวทัศน์ของต้นไม้ใหญ่ริมสองข้างทางตั้งแต่หัวถนนจนสุดถนน รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว ช่วยเพิ่มบรรยากาศความเป็นส่วนตัว จึงสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าระดับบนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างตรงจุด

     ที่สำคัญอีกอย่าง คือ ที่ดินส่วนใหญ่ในละแวกนี้เป็น ‘ลีส โฮลด์’ (lease hold) ที่ดินสัญญาเช่าแทบทั้งหมด ซึ่งทางแสนสิริได้ทุ่มงบประมาณมหาศาลในการซื้อที่ดินผืนนี้ในปี 2553 ด้วยราคาที่สูงถึง 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา คิดเป็นมูลค่าการลงทุนที่ดินเพียงอย่างเดียวสูงถึง 1,234 ล้านบาทในขณะนั้น จึงทำให้ 98 Wireless เป็นโครงการคอนโดมิเนียมเพียงโครงการเดียวบนถนนวิทยุ ณ ขณะนี้ที่ผู้สนใจจะครอบครองสามารถถือครองกรรมสิทธิ์ได้ 100%

     ทั้งนี้ราคาที่ดินถนนวิทยุนี้มีอัตราการเติบโตของราคาประเมินเฉลี่ยปีละเกือบ 70% และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2560 ราคาที่ดินบนถนนวิทยุจะขยับขึ้นไปสูงถึง 3,000,000 บาทต่อตารางวา  นี่จึงทำให้ที่นี่มีศักยภาพด้านการลงทุนอย่างสูงสุด

 

 

2. สถาปัตยกรรมคลาสสิกสไตล์ ‘โบซาร์’ ใจกลางกรุงเทพฯ และโครงการ ‘แฟลกชิป คอนโดฯ’ ที่รวบรวมทุกสรรพกำลังของแสนสิริเอาไว้ในที่เดียว

     ถ้าสังเกตกันให้ดีนั้น สถาปัตยกรรมที่เป็นตึกสูงๆ ในละแวกใกล้เคียง และรวมไปถึงตึกส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ นั้นมักจะมีรูปลักษณ์ในสไตล์โมเดิร์น แต่ความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของ 98 Wireless นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะโบซาร์ (Beaux-Arts) ซึ่งบูมอยู่ในฝรั่งเศสช่วงศตวรรษที่ 18-20 และนักสถาปัตยกรรมได้นำมาแอปพลายกับนิวยอร์กในยุคหลังๆ หลายคนที่เคยได้ไปเยือนมหานครดังกล่าวก็คงจะพอทราบกัน จึงยิ่งน่าทึ่งตรงที่ราวกับว่าแสนสิริได้นำเอาตึกสไตล์โบซาร์ในนิวยอร์กมาตั้งอยู่บนถนนวิทยุ และเพื่อทำให้สถาปัตยกรรมอันเปรียบเสมือนผลงานศิลปะเช่นนี้ได้มาตรฐานสมบูรณ์แบบที่สุดสมดังคอนเซปต์ ‘The Best Comes as Standard’ นี่จึงเป็นครั้งแรกที่แสนสิริได้ทำงานร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการดีไซน์ทุกแขนงจากทั่วโลก อาทิ DWP (Design Worldwide Partnership) บริษัทสถาปนิกชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติซึ่งมารับหน้าที่ดูแลงานด้านสถาปัตยกรรมทั้งหมด, T.R.O.P Terrains + Open Space ที่มาร่วมออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมโดยรอบโครงการ, Anne Carson Interiors ดีไซเนอร์ชื่อดังจากนิวยอร์กมาดูแลการตกแต่งพื้นที่ส่วนกลาง, Inverse Lighting ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบแสงจากสหราชอาณาจักร ที่เคยผ่านการดูแลโรงแรมระดับเวิลด์คลาสมาแล้วหลายแห่ง มารับดูแลเรื่องการออกแบบแสง ฯลฯ

 

 

3. เพื่อความงดงามที่สมบูรณ์แบบ จึงตกแต่งด้วยวัสดุหรูคุณภาพ ประกอบงานฝีมือระดับ Custom Made ที่ต้องคราฟต์กันนานถึง 7 ปี

     นอกจากตัวตึกที่งดงามอย่างคลาสสิกตามแบบสถาปัตยกรรมโบซาร์แล้ว เพื่อความสมบูรณ์แบบที่สุด ที่นี่ยังเลือกใช้วัสดุที่หรูและคุณภาพเยี่ยมที่สุด เช่น การใช้หินธรรมชาติที่นำเข้าประมาณ 28,000 ตารางเมตร ในจำนวนนั้นมีทั้งหินไลม์สโตนจากโปรตุเกส หินอ่อนลายสวย Carrara และ White Volakas หากที่พิเศษที่สุด คือ หินอ่อนสีขาวลายเฉพาะ Statuario จากเหมืองในอิตาลี ซึ่งเป็นหินอ่อนที่หายากที่สุดและเป็นที่ต้องการมากที่สุด ซึ่งจะอยู่ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางรวมไปถึงห้องชุดของลูกบ้าน นอกจากนี้ Anne Carson Interiors บริษัทที่ปรึกษาด้านการตกแต่งภายในยังได้ช่วยกำหนดคอนเซปต์ให้มีเอกลักษณ์ด้วยสไตล์คลาสสิกตามแบบฉบับของ Ralph Lauren Home, etc. ตั้งแต่โถงทางเข้าไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคส่วนกลางของโครงการ ทั้งล็อบบี้เลานจ์ บิสซิเนสเลานจ์ และพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นทาง Ralph Lauren Home, etc. ถึงกับต้อง Custom Made มาเพื่อสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีกรรมวิธีการคัดเลือกวัสดุการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในอื่นๆ ที่พิถีพิถันที่สุดจากทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้โอ๊กลายก้างปลา หรือ Herringbone และประตูไม้ลาย Mahogany Crotch นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งความพิถีพิถันระดับนี้จึงต้องใช้เวลานานถึง 7 ปีจึงจะสมบูรณ์พร้อมให้ได้ยลโฉม

 

 

4. Bentley ทะเบียน ‘วย 98’ ลีมูซีนหรูประจำโครงการ

     98 Wireless ยังมีบริการรถลีมูซีนประจำโครงการ ที่นี่เลือกใช้ Bentley รุ่น Flying Spur ซึ่งเป็นรถยนต์ซีดานที่ไม่ทิ้งความเป็นซูเปอร์คาร์ ใช้สีสั่งพิเศษ คือ British Racing Green ซึ่งถือเป็น Bentley รุ่น Flying Spur เพียงคันเดียวในประเทศไทยที่ใช้สีนี้ ทั้งยังลงรายละเอียดถึงเลขทะเบียน ‘วย 98’ ซึ่งสื่อถึงที่ตั้งของโครงการ นั่นคือ เลขที่ 98 บนถนนวิทยุ ทั้งนี้ลูกบ้านสามารถใช้บริการลีมูซีนคันนี้ได้ตามโควตาที่กำหนดซึ่งรวมอยู่ในค่าส่วนกลางอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีบริการจอดรถแบบ Valet Parking ตลอด 24 ชั่วโมง และที่จอดรถใต้ดินที่สามารถรองรับได้ถึง 240% รวมถึงที่จอดพิเศษที่ได้รับการออกแบบพื้นที่ให้เหมาะกับรถซูเปอร์คาร์ และบริการ EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งที่จอดรถของโครงการยังติดตั้งระบบฟอกอากาศอีกด้วย

 

 

5. พื้นที่ส่วนกลางที่แสนจะกว้างขวาง หรูหรา และเพียบพร้อม
     บริเวณพื้นที่ส่วนกลางทั้ง 3 ชั้นนั้นช่างแสนจะเพียบพร้อม นอกจากเอ็มบาสซีฮอลล์ที่แสนจะสวยงามและโอ่โถงแล้ว บริเวณชั้นล่างสุดยังมีพื้นที่ของสวนสวยนั่งสบายที่อยู่ติดกับบ้านพักเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาอันแสนจะร่มรื่น ส่วนชั้น 2 นั้นมีทั้งเลาจน์น้ำชาซึ่งจะเสิร์ฟไฮทีให้กับลูกบ้าน ทั้งยังสามารถปรับเป็นห้องฟังก์ชันใช้ในโอกาสต่างๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นงานวันเกิดหรืองานเลี้ยงสังสรรค์กันในหมู่เพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงาน โดยที่ติดกันยังมีห้องเตรียมอาหารซึ่งคุณสามารถนำทีมเชฟจากข้างนอกเข้ามาดูแล catering เองได้ ทั้งนี้ลูกบ้านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใดนอกจากค่าทำความสะอาดเท่านั้น มากไปกว่านั้นยังมีห้องประชุมส่วนตัว และบิสซิเนสเลาจน์ ส่วนชั้น 3 นั้นก็มีทั้งห้องสปาส่วนตัว ห้องทำเล็บ สตูดิโอสำหรับออกกำลังกายและฟิตเนสที่พรั่งพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายพร้อมเทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งคุณสามารถนัดเทอราปิสส่วนตัว ช่างทำเล็บส่วนตัว และครูฝึกสอนออกกำลังกายส่วนตัวเข้ามาได้เอง นี่ยังไม่นับสระว่ายน้ำลอยฟ้าที่ทำให้คุณมองเห็นวิวดีๆ ใจกลางกรุงได้อีก

 

 

6. ทุกยูนิตพรั่งพร้อมด้วยฮาร์ดแวร์มาตรฐานสุดยอดแบรนด์ระดับโลก
นอกจากการตกแต่งที่มีสไตล์ด้วยเฟอร์นิเจอร์ของ Ralph Lauren Home, etc.  แล้ว โครงการ 98 Wireless ยังคัดสรรสุดยอดแบรนด์ระดับโลกมาไว้สำหรับในทุกยูนิตของลูกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว และฮาร์ดแวร์อื่นๆ เพื่อสร้างมิติใหม่ของการให้ความสำคัญกับที่สุดแห่งคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในทั้งโครงการอย่างที่ไม่เคยมีโครงการใดในประเทศไทยเคยทำมาก่อน อาทิ เครื่องครัว Gaggenau, ตู้เย็นและตู้แช่ไวน์จาก Sub-Zero, ตู้และบานประตูในครัวจาก SieMatic, ก๊อกน้ำ Lefroy Brooks และสุขภัณฑ์ Kallista ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์หรูเหนือระดับที่ไว้ใจได้ในเรื่องของคุณภาพ การใช้งาน และดีไซน์

 

7. เลขาส่วนตัวด้านไลฟ์สไตล์ Quintessentially

     เป็นครั้งแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีเจ้าหน้าที่ของ Quintessentially ผู้ให้บริการผู้ช่วยส่วนตัวด้านไลฟ์สไตล์จากประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียงระดับโลก เคยจัดการงานสำคัญให้กับราชวงศ์อังกฤษมาแล้วมากมาย มาประจำอยู่ที่โครงการ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในแบบลักซูรีอย่างแท้จริง โดยไม่ว่าจะเป็นการจองร้านอาหารมิชลินสตาร์ชื่อดังในช่วงเวลาที่น่าจะจองลำบากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้ การจองตั๋วชมการแสดงที่หาได้ยาก หรือต้องการปรึกษาเรื่องบริการไลฟ์สไตล์ต่างๆ ด้วยกำลังภายในและคอนเน็กชันที่เอ็กซ์คลูซีฟระดับ ‘Q.Service’ ก็สามารถจัดการเพื่อให้ทุกความต้องการของลูกบ้านในโครงการ 98 Wireless นั้นเป็นไปได้

 

 

     ด้วยคอนเซปต์ ‘The Best Comes as Standard’ และความพิเศษอันน่าทึ่งทั้งหมดดังกล่าว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมโครงการ ‘98 Wireless’ เป็นคอนโดมิเนียมที่มีราคาสูงที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้