EARLY LIFE
พี่น้องฝาแฝด Olsen เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น โดยการรับบท Michelle Tanner ร่วมกันในซิตคอมเรื่อง Full House เรื่อยมาจนกระทั่งอายุ 9 ขวบ ทั้งสองมีผลงานการแสดงตามมาอีกมากมาย และมีฐานแฟนคลับเป็นเด็กสาวนับล้านทั่วโลกที่มองพวกเธอเป็นแบบอย่าง ทั้งคู่เปิดบริษัท Dual Star ผลิตสินค้าไลเซนส์ของตัวเองขึ้นมา เช่น เสื้อผ้า, เครื่องประดับ, ของแต่งบ้าน, เมกอัพ, น้ำหอม และอีกมากมาย ความสำเร็จนี้ส่งให้ทั้งสองติดอันดับ 11 ของผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกาด้วยรายได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจัดขึ้นโดยนิตยสาร Forbes ในปี 2007 เป็นที่น่าเสียดายหลังจากพวกเธอหันมาจริงจังด้านธุรกิจ ทำให้อาชีพนักแสดงของทั้งสองต้องจบลงด้วยเช่นกัน
THE ROW
The Row เปิดตัวครั้งแรกในปี 2006 โดยมีจุดเริ่มต้นจาก Ashley ต้องการจะผลิตเสื้อยืดสีขาวที่เพอร์เฟกต์ที่สุดในแง่ของดีไซน์ เนื้อผ้า และการสวมใส่ จากตรงนั้นเอง กลายเป็นปรัชญาการดีไซน์ของแบรนด์ The Row ที่เน้นความคลาสสิกบวกกับเทคนิคการตัดเย็บที่ยอดเยี่ยม ทั้งคู่เปิดตัวแบรนด์ด้วยการปล่อยไอเท็มทั้งหมด 7 ชิ้น ล้วนเป็นชิ้น Essential เช่น เสื้อยืด เลกกิ้ง และเดรส ด้วยงานดีไซน์และแมตทีเรียลยอดเยี่ยม Barneys New York ตัดสินใจซื้อทุกชิ้นเพื่อไปวางขาย ปัจจุบัน The Row ขยายไลน์สินค้า เช่น เสื้อผ้า Ready-to-Wear, เสื้อผ้ารีสอร์ต, กระเป๋า, แว่นตา และรองเท้า แถมยังกลายเป็นแบรนด์โปรดของเซเลบริตี้ระดับโลก เช่น Kendall Jenner, Gwyneth Paltrow และอีกมากมาย ส่วนชื่อ The Row มีที่มาจาก Savile Row ย่านตัดเย็บชุดสูทระดับสูงของประเทศอังกฤษนั่นเอง
ELIZABETH AND JAMES
ในปี 2007 ทั้งสองได้เปิดแบรนด์แฟชั่นในชื่อ Elizabeth and James ขึ้น ตามชื่อของน้องสาวและพี่ชายของพวกเธอ เพื่อต่อยอดธุรกิจแฟชั่นที่ทั้งสองตัดสินใจจะหันมาเอาดีทางนี้แทนการแสดง สำหรับแบรนด์นี้วางตัวให้มีคอนเซปต์ที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า The Row แม้ภาพรวมยังคงเน้นความเรียบหรูอยู่ก็ตาม แต่แรงบันดาลใจหลักๆ จะมาจากเสื้อผ้าวินเทจที่ทั้งสองชอบซื้อเก็บไว้ ดังนั้นสไตล์ของเสื้อผ้าจึงมีกลิ่นอายย้อนยุคหน่อยๆ แต่อยู่ในรูปลักษณ์ที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน ทั้งสองยังวางตัวให้แบรนด์นี้มีราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า สำหรับ Elizabeth and James ถือว่าได้ผลตอบรับที่ดีเยี่ยม แม้สุดท้ายทั้งสองจะหันไปมุ่งให้ความสำคัญกับ The Row อย่างเดียวก็ตาม
DESIGN PHILOSOPHY
ปรัชญาการดีไซน์ของแบรนด์ The Row คือเสื้อผ้าเรียบหรูมีความเป็น Timeless Elegance เน้นการตัดเย็บที่คมกริบบนซิลูเอตเรียบง่าย อย่างชุดสูท โค้ต และสลิปเดรส เสื้อผ้าของ The Row ไม่ตามเทรนด์ เราจะไม่เห็นกระแส Y2K ที่แบรนด์นี้อย่างแน่นอน นอกจากงานดีไซน์ที่เรียบหรูเหนือกาลเวลาแล้วนั้น ในเรื่องของแมตทีเรียลที่นำมาใช้ถือว่ายอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน เพราะทั้งสองตั้งใจให้แบรนด์ The Row ไม่ใช่แค่แบรนด์เสื้อผ้าของเซเลบริตี้ แต่อยากให้เป็นแบรนด์แฟชั่นที่ได้รับการยอมรับจากทั้งในและนอกวงการจริงๆ ในช่วง 3 ปีแรกทั้งสองเลือกที่จะไม่ให้สัมภาษณ์หรือออกสื่อเกี่ยวกับแบรนด์นี้เลย เพื่ออยากให้ทุกคนโฟกัสที่เรื่องเสื้อผ้า ไม่ใช่ตัวของพวกเธอ ในปี 2018 แบรนด์เปิดตัวไลน์เสื้อผ้าผู้ชายขึ้น โดยหยิบเอาสไตล์ของผู้หญิงมาต่อยอด
SPECIAL COLLABORATIONS
ปี 2015 เป็นครั้งแรกที่ The Row ร่วมทำโปรเจกต์พิเศษกับแบรนด์อื่นๆ ซึ่งแบรนด์แรกเป็นของ TOMS Shoes ในคอลเล็กชันพิเศษกับรองเท้าในโทนสีอย่างเทา เทาอ่อน และดำ ต่อมาด้วย Damien Hirst ศิลปินที่ถูกเชิญมาร่วมออกแบบคอลเล็กชันกระเป๋าแบ็กแพ็กหนังจระเข้ 12 ดีไซน์ โดยรายได้ส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้จะถูกส่งต่อให้องค์กร UNICEF และในปี 2018 ทั้งคู่ได้ร่วมออกแบบแว่นตาร่วมกับแบรนด์ Oliver Peoples ถือเป็นการชิมลางก่อนที่พวกเธอจะมีไลน์แว่นตาเป็นของตัวเองในเวลาต่อมา
AWARDS & RECOGNITION
อีกหนึ่งความสำเร็จของแบรนด์ The Row คือการที่แบรนด์ได้การยอมรับจากวงการแฟชั่น โดยเฉพาะการได้รางวัลจาก CFDA ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลระดับออสการ์ของฝั่งแฟชั่นเลยทีเดียว The Row สามารถชนะรางวัล Womenswear Designer of the Year จากเวทีนี้ในปี 2012 และ 2015 ไม่ใช่แค่นั้น ทั้งคู่ยังสามารถชนะรางวัลในสาขา Accessories Designer of the Year จากเวทีเดิมถึง 3 ครั้งในปี 2014, 2018 และ 2019 รางวัลเหล่านี้สามารถการันตีถึงฝีมือและมุมมองของทั้งสองว่า พวกเธอนั้นตั้งใจกับการทำแบรนด์นี้แค่ไหน
PERSONAL STYLE
ในช่วงวัยรุ่นทั้ง Mary Kate และ Ashley เริ่มสนใจแฟชั่น ทั้งสองเริ่มแต่งตัวตามสไตล์ไอคอนที่พวกเธอชอบอย่าง Kate Moss นางแบบดังของยุค 90 ไม่แปลกเลยที่สไตล์ส่วนตัวของทั้งคู่จะมีกลิ่นอายแบบ Boho-Chic เป็นการมิกซ์แอนด์แมตช์ระหว่างแบรนด์หรูและสตรีทเข้าด้วยกัน สื่อเมืองนอกอย่าง The New York Times เคยยกย่องแกมกัดสองสาวด้วยการยกตำแหน่งตัวแม่ด้านสไตล์แบบ ‘Homeless’ ให้กับพวกเธอ จากการแต่งตัวของเธอที่เริ่มจะจัดจ้านมากขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากทั้งสองเข้าสู่โหมดของดีไซเนอร์ สไตล์ของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ทั้งสองโตขึ้นและเริ่มแต่งตัวตามภาพลักษณ์ของแบรนด์ตัวเอง เน้นเรียบหรูดูมีรสนิยม
