หนึ่งในนางแบบที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมสูงสุดในยุคโซเชียลมีเดียจะต้องมีชื่อของ Bella Hadid ปรากฏประจักษ์อย่างแน่นอน ลูกสาวคนกลางของตระกูล Hadid กับยีนระดับเทพลูกผสมระหว่างดัตช์และปาเลสไตน์ Bella Hadid สะสมไมล์การทำงานในแวดวงแฟชั่น จนตัวเธอนั้นสามารถสร้างชื่อให้กับตัวเองในฐานะซูเปอร์โมเดลได้ไม่ต่างอะไรกับพี่สาว Gigi Hadid และคงไม่มีใครลืมโมเมนต์ชุดสเปรย์จากโชว์ของ Coperni ไปได้ โมเมนต์สุดปังที่กลายภาพจำประวัติศาสตร์ของวงการแฟชั่นเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากโครงหน้าและรูปร่างที่สวยราวรูปปั้นแล้ว Bella Hadid ยังเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะเรื่องการโชว์ด้านที่บอบบางของตัวเอง เพื่อให้ทุกคนตระหนักว่า แม้ภายนอกเธอจะดูเฟอร์เฟกต์ แต่จริงๆ แล้วเธอคือมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่แค่นั้น เธอยังถือเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นไอคอนของคนเจนใหม่ที่มาพร้อมสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น เป็นตัวของตัวเอง จนขึ้นแท่นเป็นขวัญใจของใครหลายคน
วันนี้ THE STANDARD POP จะพาทุกคนไปทำความรู้จักตัวตนของนางแบบสาวคนดังคนนี้มากขึ้นผ่าน 7 ปัจจัยที่ทำเราถึงตกหลุมรักเธอ
PROVING HERSELF
Bella Hadid เริ่มต้นอาชีพนางแบบของเธอครั้งแรกพร้อมๆ กับ Gigi Hadid พี่สาวของเธอ ในปี 2014 ขณะที่ทุกคนหลงรักตัวตนที่เข้าถึงง่ายแบบ Girl Next Door ของ Gigi Hadid หลายคนกลับมองว่า Bella Hadid คือขั้วตรงข้าม เธอเคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารว่า แม้เธอจะชื่นชมพี่สาวของเธอมากๆ เธอกลับรู้สึกกดดันเมื่อถูกเปรียบเทียบ นั่นทำให้ในช่วงแรกของอาชีพนางแบบเธอเลือกที่จะเก็บตัวมากกว่า คนส่วนใหญ่เคยตราหน้าว่าเธอไม่ใช่นางแบบมืออาชีพ แต่เป็นแค่ Insta Model หรือนางแบบโลกโซเชียลที่ดังได้จากยอดผู้ติดตามบน Instagram เท่านั้น
ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีในวงการ Bella Hadid ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง เธอสะสมความมั่นใจ ผงาดจากเด็กสาวชอบเก็บตัวสู่นางพญาบนรันเวย์แบรนด์ดังระดับโลกและหน้าปกนิตยสารแฟชั่นนับไม่ถ้วน เว็บไซต์เก็บข้อมูลเกี่ยวกับนางแบบชื่อดัง Models.com ยกตำแหน่ง Model of the Year ให้เธอในปี 2016 และ 2022 รวมถึงตำแหน่งเดียวกันที่เวทีแจกรางวัลคนแฟชั่น British Fashion Awards ปีล่าสุด เธอยังได้รับเลือกให้เฉิดฉายบนปก Vogue ฉบับอเมริกา ที่นางแบบน้อยคนนักจะมีโอกาสได้ขึ้น พิสูจน์ว่าเธอคือซูเปอร์โมเดลของยุคสมัยอย่างแท้จริงและไม่ได้มีดีแค่สวยเท่านั้น
VOICE OF HER GENERATION
Bella Hadid เป็นคนดังอีกหนึ่งคนที่กล้าใช้แฟลตฟอร์มโซเชียลมีเดียพูดเรื่องการเมืองและปัญหาสังคมต่างๆ ในฐานะคนเชื้อสายปาเลสไตน์ เธอมักโพสต์ข้อความเรียกร้องความเท่าเทียมและความปลอดภัยในกับคนชาติจากสงครามอยู่เสมอ แม้จะเคยถูกโจมตีว่าเธอเป็นดัง ไม่ควรใช้โซเชียลมีเดียในการสนับสนุนซ้ายสุดหรือขวาสุด แต่เธอเลือกที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องแม้จะถูกต่อว่าก็ตาม ในช่วงสงครามยูเครน เธอยังโพสต์หาช่องทางในการช่วยเหลือ ระดมทุน และสนับสนุนผู้หญิงแกร่งหลากหลายสาขา โดยชื่นชมพวกเธอผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวของตัวเอง อีกหนึ่งเรื่องที่เราเห็นเธอทำสม่ำเสมอมาโดยตลอดคือ การบริจาคสิ่งของให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เช่น เหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรีย นอกจากจะโพสต์ช่องทางช่วยเหลือแล้วนั้น เธอยังนำสิ่งของจำเป็นไปบริจาคให้กับองค์กรที่ดูแลอีกด้วย
BEING A ROLE MODEL
แม้บุคลิกภายนอกเธอจะดูเฟียร์ซ แต่จริงๆ แล้ว Bella Hadid มักได้รับคำชมจากคนรอบข้างเสมอถึงความเป็นกันเอง ไม่ถือตัว และยังตั้งใจทำงานมากๆ นั่นมาจากคำสอนของแม่เธอ Yolanda Hadid ที่คอยเตือนลูกสาวซูเปอร์โมเดลทั้งสองให้คิดถึงคนรอบข้าง อย่าคิดถึงแค่ตัวเองเท่านั้น จึงไม่แปลกที่หลายคนในวงการยกย่องว่า เธอนั้นเป็นโปรเฟสชันแนลในสายงานที่ทำเป็นอย่างมาก ในพาร์ตอื่นๆ Bella Hadid มักตอบคอมเมนต์แฟนๆ ที่มาถามเธอเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ และให้คำแนะนำ ซึ่งหาได้ยากมากที่คนดังระดับเธอจะมานั่งแคร์แฟนคลับแบบนี้ เช่น เมื่อแฟนคลับคนหนึ่งได้คอมเมนต์ใน TikTok ว่า ตัวเองรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างเลยหลังจากเห็นหุ่นของเธอ Bella Hadid เข้ามาตอบว่า “คุณดูดีในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ได้โปรดอย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเลย” และเวลาที่เธอเจอแฟนๆ ตามท้องถนน เรามักจะเห็นภาพของเธอสวมกอดและทักทายพูดคุยกับทุกคนเสมอ เป็นตัวอย่างของคนดังนิสัยดีที่น่าเอาเป็นตัวอย่างมากๆ
TALKING ABOUT MENTAL HEALTH
ในปี 2012 เธอตรวจพบโรคลายม์ที่ส่งผลให้กล้ามเนื้อของเธออ่อนแรง สาเหตุหลักที่ทำให้เธอตัดสินใจเลิกความฝันเป็นนักกีฬาขี่ม้าและหันมาเป็นนางแบบแทน โรคลายม์นี้ไม่มีวันหาย เธอยังต่อสู้กับมันอยู่ในปัจจุบัน และเธอเลือกที่จะเปิดเผยกับผู้คน เพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงในการรับมือกับโรคนี้ ไม่เพียงแค่นั้น Bella Hadid ยังเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เธอเข้ารับการรักษาภาวะวิตกกังวลและโรคซึมเศร้า เธอบอกกับนิตยสาร Vogue ว่า การเข้ารับการรักษาเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่เธอให้กับตัวเอง เธอยังเผยอีกว่า เธอทำงานเหมือนเครื่องจักร เพื่อให้ความรู้สึกตัวเองด้านชาที่สุด จะได้ไม่ต้องเผชิญภาวะซึมเศร้า แต่ไม่ใช่เลย นั่นกลับทำให้เธอแย่ลง
หลังจากรักษา เธอกลับมารักตัวเองมากขึ้น แม้ว่าเธอจะเป็นที่ต้องการตัวของแบรนด์แฟชั่นมากแค่ไหนก็ตาม Bella Hadid เลือกที่จะจำกัดการออกสื่อและรับงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ตัวเองมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น และเธอยังนำประสบการณ์ตรงจากโรคเหล่านี้มาตอบคอมเมนต์แฟนคลับที่เผชิญปัญหาเดียวกันกับเธอด้วย
UNIQUE SENSE OF STYLE
ในบทสัมภาษณ์นิตยสาร WSJ เธอกล่าวว่า ได้เลิกใช้สไตลิสต์ส่วนตัวมา 2 ปีกว่าแล้ว เธอเผชิญกับโรควิตกกังวลหนักมากทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพราะรู้ดีว่าต้องเจอกับเหล่าปาปารัซชีที่คอยวิ่งตามถ่ายรูปเธอตลอดเวลา การจ้างสไตลิสต์เหมือนเป็นการจัดการภาวะตรงนี้ชั่วคราวเท่านั้น เธออยากรู้สึกดีกับตัวเองในทุกชุดที่เธอสวมใส่ เธอเลยเลือกที่จะผสมผสานและสร้างสไตล์ในแบบของเธอเองดีกว่า เธออยากรู้สึกดีกับตัวเองแม้จะใส่แค่เสื้อยืดและกางเกงฟิตเนสลงไปซื้อของ ไม่จำเป็นต้องแต่งองค์ทรงเครื่องหัวจรดเท้าอีกต่อไป
Bella Hadid เป็นคนดังไม่กี่คนที่มีเซนส์การแต่งตัวที่ดีมากๆ ในยุคที่เทรนด์ Y2K กำลังกลับมา เธอคือคนแรกๆ ที่นำเทรนด์นี้มาแต่งก่อนใครเพื่อน จนสไตล์ Y2K กลายเป็นภาพจำของเธอและของใครอีกหลายคนที่เริ่มแต่งตัวแนวนี้ตามเธอ ในการจัดอันดับของ Lyst ปี 2022 เธอได้รับตำแหน่ง Power Dresser of the Year กับอิทธิพลการแต่งตัวของเธอที่สร้างเทรนด์ให้กับผู้เสพแฟชั่นมากมาย
QUEEN OF CANNES
ไม่ใช่แค่สไตล์การแต่งตัวส่วนตัวเท่านั้นที่สร้างอิมแพ็ก ทุกครั้งที่ Bella Hadid ปรากฏตัวบนตัวบนพรมแดงมักสร้างโมเมนต์เสมอ โดยเฉพาะเวทีงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ อีเวนต์ที่เธอแทบไม่เคยพลาดปรากฏตัวเลย ในปี 2016 เธอมาในเดรสคล้องคอสีแดงจาก Alexandre Vauthier เดรสสุดเซ็กซี่ผ่าลึกและผ่าสูง สร้างภาพจำสุดเซ็กซี่ให้กับเธอไปเลยในปีนั้น แล้วเธอก็ล้างกระดานภาพลักษณ์สุดเซ็กซี่ด้วยชุดจาก Christian Dior ในปี 2018 เดรสเกาะอกเรียบโก้เปลี่ยนลุคให้ดูหรูหราสุดแกลม
แต่ในปี 2021 เรียกว่าเป็นลุคพีคที่สุดของเธอของอีเวนต์นี้ เมื่อเธอปรากฏตัวในชุดของ Schiaparelli สามารถสร้างมูลค่าทางสื่อได้มากกว่า 18.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เดรสสีดำคว้านอกพร้อมสร้อยคอรูปปอดปิดช่วงหน้าอกของเธอ ในขณะที่ปี 2022 เธอกลับเลือกเดรสวินเทจจากแบรนด์ดัง เน้นดีไซน์ที่ขานรับเทรนด์มินิมัลก่อนใครเพื่อน หลังจากนั้นเทรนด์มินิมัลก็กลับมาในกระแสแฟชั่นอีกครั้งหนึ่ง
YOUNG ENTREPRENEUR
เมื่อเดือนกันยายน ปี 2021 เธอประกาศลงทุนร่วมทำแบรนด์เครื่องดื่มเอเนอร์จี้ชื่อ Kin Euphorics ร่วมกับ Jen Batchelor ผู้ก่อตั้ง ซึ่งการเข้ามาของ Bella Hadid จะมาช่วยเรื่องภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงส่วนผสมและรสชาติใหม่ๆ นอกจากนั้น Bella Hadid ยังเคยคอลแล็บคอลเล็กชันพิเศษกับแบรนด์มากมาย เช่น Chromehearts x Bella คอลเล็กชันแว่นตาที่ทำร่วมกับแบรนด์แอ็กเซสซอรีชื่อดัง รวมถึงโปรเจกต์ CyBella ตัวละคร NFT ที่ร่วมกับบริษัทเทคชื่อดังออกแบบตัวละครพิเศษผ่านฟิกเกอร์ของเธอ และล่าสุด Bella x About You คอลเล็กชันเสื้อผ้า Y2K จัดๆ ที่เธอลงมือช่วยเลือกและดีไซน์เอง