วันนี้ (6 มกราคม) บรรยากาศที่สำนักงานเขตหลักสี่ตั้งแต่เช้า กองเชียร์ของผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตหลักสี่-จตุจักร 7 พรรคการเมืองเป็นไปอย่างคึกคัก ถือเป็นการสร้างสีสันให้กับการเปิดรับสมัครในวันแรก
ขณะที่ รุ่งโรจน์ อิบรอฮีม ผู้สมัครจากพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางมาถึงเป็นพรรคแรก พร้อม มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรค ระบุว่า มั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง และพรรคไทยศรีวิไลย์จะได้ ส.ส. เขตหลักสี่ เพราะรุ่งโรจน์ทำงานในพื้นที่มานานและคอยช่วยเหลือประชาชน โดยย้ำว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ไม่ซื้อเสียง ไม่มีทุจริต วันนี้อยากได้เบอร์ 2 จะได้หาเสียงง่าย ควบกับการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดชุมพร ถ้าได้เบอร์ 1 จะยก 1 นิ้วลำบาก และถ้าได้เบอร์ 3 ก็จะชูนิ้วลำบากอีก ดังนั้นเบอร์ 2 จึงดีที่สุด
ด้าน สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตหลักสี่-จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง ถือฤกษ์ 07.09 น. เริ่มออกเดินทางจากสำนักงานมายังสำนักงานเขตหลักสี่ เพื่อยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีประชาชนมาร่วมให้กำลังใจและร่วมเดินทางมายังสำนักงานเขตด้วยจำนวนมาก
สรัลรัศมิ์กล่าวว่า วันนี้มีกำลังใจดี โดยเฉพาะจาก สิระ เจนจาคะ สามี ในฐานะอดีต ส.ส. ที่ให้กำลังใจกันทุกวัน เพราะอยู่ด้วยกันทุกวัน รวมถึงประชาชนที่มาร่วมให้กำลังใจ และภายหลังจากที่ได้หมายเลขผู้สมัครในวันนี้ก็จะเดินหน้าลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง ส่วนการช่วยเหลือประชาชนนั้นที่ผ่านมาก็ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นการช่วยเหลือในทุกมิติ และสิ่งใดที่ประชาชนเรียกร้องมาเร่งด่วนก็จะรีบทำก่อน
ต่อมาเวลา 07.20 น. อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ในฐานะผู้สมัคร ส.ส. เขตหลักสี่-จตุจักร เดินทางถึงสำนักงานเขตหลักสี่ พร้อมทีมงานและกองเชียร์คึกคัก
อรรถวิชช์ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความมั่นใจ 100% เพราะตนเองเคยเป็นผู้แทนราษฎรในเขตหลักสี่และเขตจตุจักร ในปี 2550 และ 2554 มาก่อน วันนี้กลับมาลงเลือกตั้งในเขตนี้อีกครั้ง ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก จึงขอขอบคุณประชาชนทุกคน และมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ เพราะจากการประเมินคู่แข่งแต่ละท่าน ตนเองคุ้นชินพื้นที่มากกว่าและมีผลงานในพื้นที่ไว้มากจึงทำให้มั่นใจ และการเลือกตั้งเหลือเวลาอีกแค่ปีกว่าๆ เท่านั้น สิ่งที่อยากทำคือเป็นคนกลางในการพูดคุยกับประชาชนและประสานงานในการดำเนินการเกี่ยวกับซอยย่อย ถนนทางลัด และตามริมคลอง เพราะเขตนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 2 คลอง คือ คลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ซึ่งที่ผ่านมาอดีตผู้แทนราษฎรไม่กล้าเข้าไปเจรจาแก้ปัญหาความขัดแย้ง ทั้งนี้ ไม่กังวลคู่แข่งคนใดเป็นพิเศษ
จากนั้นเวลา 07.35 น. กรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล เดินทางมาพร้อมกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมกองเชียร์ถือป้ายตะโกนพรรคก้าวไกลสู้ๆ โดยพิธากล่าวว่า อยากให้คนหลักสี่ให้โอกาสพรรคก้าวไกลและกรุณพล เพราะถือเป็นอีกหนึ่งคนที่รู้พื้นที่ เข้าใจปัญหาของชาวหลักสี่มานาน เลือกตั้งครั้งนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงและการแก้ปัญหาให้กับคนหลักสี่
ขณะที่กองเชียร์ของพรรคเพื่อไทยก็คึกคัก มีแกนนำคนสำคัญมาร่วมให้กำลังใจ สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส. เขตหลักสี่ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว, สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค รวมถึง สรวงศ์ เทียนทอง ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค
นพ.ชลน่านกล่าวว่าวันนี้มีความมั่นใจมากและต้องการทวงคืนศักดิ์ศรีของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมย้ำว่ามีความมั่นใจมากๆ ส่วนปัญหาในพื้นที่นั้นผู้สมัครรับทราบปัญหาตลอด แต่สิ่งที่กลัวว่าจะมีปัญหาคือการใช้อำนาจรัฐที่จะเกิดขึ้น แต่พรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะป้องกัน
ด้านสุรชาติกล่าวแสดงความมั่นใจเช่นกันและไม่ตื่นเต้น เพราะมั่นใจในสิ่งที่ทำมาตลอดชีวิต เชื่อว่าทุกวันคือการทำงานเพื่อประชาชน และหลังจากนี้จะทวงคืนศักดิ์ศรีคนหลักสี่กลับคืนมา รวมทั้งในวันนี้ตนไม่เจาะจงว่าจะต้องได้เลขอะไร เชื่อประชาชนจะไว้วางใจ และไม่มีอะไรต้องตื่นเต้น เพราะตนพร้อมทำเพื่อประชาชนตลอดเวลาอยู่แล้ว
สำหรับผลการจับสลากหมายเลขผู้สมัคร ได้แก่
- พันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ จากพรรคไทยภักดี ได้หมายเลข 1
- อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จากพรรคกล้า ได้หมายเลข 2
- สุรชาติ เทียนทอง จากพรรคเพื่อไทย ได้หมายเลข 3
- กุลรัตน์ กลิ่นดี พรรคยุทธศาตร์ชาติ ได้หมายเลข 4
- รุ่งโรจน์ อิบรอฮีม จากพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้หมายเลข 5
- กรุณพล เทียนสุวรรณ จากพรรคก้าวไกล ได้หมายเลข 6
- สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ จากพรรคพลังประชารัฐ ได้หมายเลข 7
สำหรับกำหนดวันเลือกตั้งซ่อมที่ประชาชนต้องตัดสินอนาคตทางการเมืองของผู้สมัครแต่ละคนคือ วันที่ 30 มกราคม 2565
