ภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ทำให้มหาเศรษฐีกระจายเงินทุนไปยังของสะสมต่างๆ หนึ่งในนั้นที่สร้างปรากฏการณ์ราคาสูงขึ้นอย่างชัดเจนก็คือหนังสือหายากที่หลงเหลือต้นฉบับอยู่ไม่มากในโลก โดยเฉพาะในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา แนวโน้มราคาหนังสือหายากเพื่มขึ้นอย่างน่าสนใจ นัยหนึ่งก็ตอบสองความสุขส่วนตัว ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างผลกำไรงามๆ ได้ในอนาคต
ในปี 2020 หนังสือรวบรวมบทละครของ William Shakespeare ซึ่งมีต้นฉบับที่อยู่ในมือเอกชนหลงเหลืออยู่เพียง 5 ฉบับได้รับการประมูลไปด้วยราคาสูงถึง 334.6 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเคยคาดการณ์ว่าจะขายได้ในราคาแค่ 133.8 ล้านบาท โดยครั้งสุดท้ายที่หนังสือนี้เคยออกประมูลคือในปี 2001 มีราคาอยู่ที่ 207.6 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ชุด แฮปปี้มีล สำหรับผู้ใหญ่รุ่นลิมิเต็ดของ McDonald’s ถูกโพสต์ขายบน eBay ด้วยราคาสูงถึง 11.4 ล้านบาท จากราคาเริ่มต้นแค่ 760 บาท
- Pokémon พิมพ์การ์ด 9 พันล้านใบในปีที่ผ่านมา โดย ‘นักเก็งกำไร’ บางคนสามารถไปขายต่อได้เพิ่มขึ้น 350 เท่าจาก ‘การ์ดหายาก’
- สำรวจราคา BE@RBRICK ตุ๊กตาหมีพลาสติกที่ยังไม่สิ้นมนตร์ขลัง
จริงๆ แล้วความต้องการหนังสือหายากในตลาดไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่เป็นกระแสที่น่าสนใจมานานแล้ว โดยเฉพาะเมื่อมีตลาดซื้อขายแบบออนไลน์ทำให้หนังสือหายากจากคอลเล็กชันส่วนตัวได้เผยโฉมออกมาให้โลกเห็น และซื้อขายกันอย่างกว้างขวาง เช่นหนังสือ Philosophiæ Naturalis Principia Mathematica ผลงานของ Sir Isaac Newton ที่บรรจุทฤษฎีการเคลื่อนที่และแรงโน้มถ่วงเอาไว้ ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 386 เล่ม กระจายอยู่ใน 27 ประเทศทั่วโลก ก็มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 20.1 ล้านบาท
ส่วนเล่มที่แพงที่สุดได้รับการประมูลไปด้วยราคา 124.6 ล้านบาท ซึ่งนอกจากหนังสือหายากจะถูกนำไปเก็บไว้เป็นคอลเล็กชันส่วนตัว มหาเศรษฐีบางส่วนก็ประมูลไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์หรือหอจดหมายเหตุแห่งชาติสำหรับการกุศลด้วย
ปัจจุบันหนังสือเก่าที่ทำราคาได้สูงจะเป็นหนังสือที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ หรือบทบันทึกทฤษฎีความรู้ที่ยังใช้แพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งใน 40 อันดับของหนังสือราคาแพงที่สุดในโลก มีผลงานของนักเขียนสมัยใหม่เพียงคนเดียวที่ติดอันดับนั่นคือ J.K. Rowling โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาที่มักถูกบันทึกมาตั้งแต่ยุคกลาง และนี่คือ 6 เล่มในจำนวน 40 ลำดับที่ผู้อ่านทั่วไปค่อนข้างคุ้นเคย
Alice’s Adventures in Wonderland ราคาประมาณ 51.6 ล้านบาท
หรือที่คนในยุคปัจจุบันรู้จักในชื่อ ‘Alice in Wonderland’ เขียนขึ้นในปี 1865 โดย Lewis Carroll เป็นผลงานนวนิยายอังกฤษที่มีชื่อเสียงที่สุดเรื่องหนึ่งในยุควิกตอเรียน และยังคงมีอิทธิพลกับวัฒนธรรมป๊อปจนถึงยุคปัจจุบัน โดยฉบับที่แพงที่สุดเป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรก และเป็นหนังสือของผู้ประพันธ์เองอีกด้วย
Philosophiæ Naturalis Principia Mathematica ราคาประมาณ 124.6 ล้านบาท
หนังสือที่เขียนขึ้นโดย Sir Isaac Newton ในปี 1687 ซึ่งบรรจุเรื่องราวของกฎการเคลื่อนที่และแรงโน้มถ่วงเอาไว้ในเล่ม โดยเล่มที่มีราคาทะลุร้อยล้านเป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรก ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในคอลเล็กชันการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ล้ำค่าและสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์
The Tales of Beedle the Bard ราคาประมาณ 133.2 ล้านบาท
ผลงานของนักเขียนสมัยใหม่เพียงคนเดียวที่ติดอันดับท็อปของหนังสือหายากราคาแพง เธอคนนั้นก็คือ J.K. Rowling นั่นเอง ซึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เขียนและวาดภาพประกอบด้วยมือ ทำขึ้นมาเพียง 7 เล่ม หนึ่งในนั้นนำออกประมูลในปี 2010 เพื่อนำรายได้มอบให้กับมูลนิธิเด็กของ J.K. Rowling ต่อมาในปี 2016 หนังสืออีก 6 เล่มถูกขายออกไปในราคา 15.6 ล้านบาท
The Gutenberg Bible ราคาประมาณ 180.8 ล้านบาท
คัมภีร์ไบเบิลฉบับ Gutenberg เป็นหนังสือฉบับสมบูรณ์เล่มแรกที่ใช้วิธีการเรียงพิมพ์ในปี 1455 ซึ่งนับว่าเป็นนวัตกรรมการพิมพ์ที่ล้ำสมัยและเปลี่ยนแปลงโลกในสมัยนั้น และเนื่องจากในญี่ปุ่นไม่มีคัมภีร์ไบเบิลฉบับ Gutenberg บริษัท Maruzen บริษัทจำหน่ายหนังสือของญี่ปุ่นจึงซื้อฉบับที่ไม่สมบูรณ์ในราคา 5.4 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันคัมภีร์ไบเบิลฉบับ Gutenberg มีหลงเหลืออยู่เพียง 49 เล่ม แต่มีเพียง 21 เล่มเท่านั้นที่ยังสมบูรณ์อยู่
Magna Carta ราคาประมาณ 713.2 ล้านบาท
มหากฎบัตร หรือกฎบัตรใหญ่แห่งเสรีภาพ เป็นกฎบัตรของอังกฤษที่ตราขึ้นเมื่อปี 1215 ในสมัยพระเจ้าจอห์น โดยถือว่ามีอิทธิพลต่อการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน โดยในปี 2007 มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน David Rubenstein ประมูลไปในราคา 713.2 ล้านบาท เพื่อมอบให้กับหอสมุดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา คาดว่าปัจจุบันหลงเหลือ Magna Carta อยู่เพียง 250 ฉบับเท่านั้น
Codex Leicester ราคาประมาณ 1.03 พันล้านบาท
ผลงานของ Leonardo da Vinci ที่เขียนลงบนผ้าลินินจำนวน 72 หน้าในปี 1510 โดยในเล่มว่าด้วยเรื่องความคิด ทฤษฎี และการสังเกตโลกของตัว ดา วินชี เอง ในปี 1980 นักอุตสาหกรรม Armand Hammer ซื้อ Codex Leicester ในราคา 194.1 ล้านบาท จากนั้นในปี 1994 Bill Gates ชื้อต่อมาในราคาในราคา 1.03 พันล้านบาท หลังจากซื้อแล้วเขาสแกนดิจิทัลบางหน้าของหนังสือเป็นภาพพักหน้าจอและวอลเปเปอร์สำหรับ Windows 98 Plus
อ้างอิง:
