×

6 ของสะสมที่น่าสนใจ เพื่อความมั่งคั่งในอนาคต

26.05.2023
  • LOADING...
ของสะสม

ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน การลงทุนทางเลือกหรือการลงทุนนอกเหนือจากสินทรัพย์ดั้งเดิม กลายเป็นอีกหนึ่งทางออกในการป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ถึงแม้ว่าสัดส่วนในปัจจุบันจะถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับการลงทุนกระแสหลัก เช่น หุ้น หุ้นกู้ พันธบัตร กองทุนรวม หรือประกันภัย ฯลฯ แต่ตลาดนี้ก็เติบโตขึ้นอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

 

ของสะสมเป็นหนึ่งในการลงทุนทางเลือกที่เป็นที่นิยมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ ตามรายงานของ Knight Frank ไวน์ชั้นดีและนาฬิกาให้ผลตอบแทน 16% ในช่วงปี 2021 นอกจากนี้ยังมีของสะสมอื่นๆ ที่ให้ทั้งความสุขและผลกำไรได้พร้อมๆ กัน เช่น งานศิลปะ รถยนต์ หรือเครื่องประดับ ฯลฯ 

 

อย่างไรก็ตาม ของสะสมก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง ด้วยความที่ของเหล่านี้ไม่ได้มีการซื้อ-ขายในตลาดสาธารณะ และไม่มีการควบคุมราคา ทำให้การกำหนดราคาไม่ชัดเจนและมีความเสี่ยงที่นักลงทุนรายใหม่จะถูกเอาเปรียบ อีกทั้งของสะสมมีสภาพคล่องค่อนข้างน้อย ตลาดและอุปสงค์เป็นแบบเฉพาะกลุ่ม ซึ่งการขายก็อาจใช้เวลานาน แต่ถึงอย่างนั้นหากลงทุนอย่างชาญฉลาดก็มีของสะสมหลายชนิดที่ทำสถิติผลตอบแทนที่ดี และนี่คือ 6 ของสะสมที่น่าสนใจเพื่อความมั่งคั่งในอนาคต 

 

Stamp

 

 

จริงอยู่ว่าในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา ความนิยมในการสะสมแสตมป์จะลดลง เพราะผู้คนหันไปสื่อสารทางอื่นแทนการเขียนจดหมาย อย่างไรก็ตาม เจ้ากระดาษแผ่นเล็กๆ นี้ยังเป็นของสะสมที่มีมูลค่าน่าประทับใจ โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาอยู่ที่ 13% ต่อปีตั้งแต่ปี 1991 (ตามการเติบโตของดัชนี GB 250 ซึ่งติดตามมูลค่าของแสตมป์ 250 อันดับแรกใน Great Britain) 

 

ส่วนข้อดีอีกอย่างสำหรับนักสะสมคือ แสตมป์มีน้ำหนักเบา เก็บรักษาง่าย ต้นทุนในการสะสมไม่แพง และมักจะมีการผลิตแบบจำนวนจำกัดบ่อยๆ เพื่อซื้อเก็บไว้เก็งกำไร 

 

Rare Coins

 

 

ประเมินกันว่า ตลาดการสะสมเหรียญมีมูลค่าสูงถึง 3,800 ล้านดอลลาร์ในปี 2018 ส่วนเหรียญที่แพงที่สุดในโลกปัจจุบันคือ Flowing Hair Silver Dollar ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1794 โดยในเดือนกันยายน 2020 มีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ สำหรับผู้ที่เริ่มสะสมลองเก็บเหรียญที่ระลึกที่จำนวนจำกัด เหรียญที่เลิกใช้งานไปแล้ว หรือเหรียญที่มีข้อผิดพลาด ก็อาจทำราคาได้ในอนาคต 

 

Toys

 

 

ในกรณีนี้ขอพูดถึงรวมๆ ทั้งของเล่น หนังสือการ์ตูน ไปจนถึงการ์ดกีฬา ตุ๊กตา และฟิกเกอร์ต่างๆ ด้วย ตลาดนี้ในสหรัฐอเมริกาคาดว่าจะขยายตัวเป็น 35,300 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 10.1% ส่วนใหญ่ของเล่นสะสมที่มีมูลค่าสูงจะเป็นสินค้าที่มีอิทธิพลในป๊อปคัลเจอร์ อย่างเช่น ของเล่นต้นฉบับของ Star Wars จากปี 1977 หรือหนังสือการ์ตูนที่ตีพิมพ์ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1970 เป็นต้น 

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ การรักษาของเล่นให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ รักษาบรรจุภัณฑ์เดิมไว้หากทำได้ แต่การสะสมประเภทนี้ต้องอาศัยเวลาอย่างน้อย 20 ปี ให้อารมณ์โหยหาอดีต ทำให้ของเล่นเหล่านั้นกลายเป็นที่ต้องการอีกครั้ง 

 

Fine Art

 

 

ตลาดงานศิลปะทั้งภาพวาด ภาพถ่าย และงานประติมากรรม มีมูลค่ารวม 65,000 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันงานศิลปะร่วมสมัยผลงานของศิลปินที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่น Jeff Koons, Jasper Johns, Cindy Sherman และ Damien Hirst กำลังได้รับความนิยมเป็นพิเศษ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ควรเลือกซื้อชิ้นงานของศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังสะสมชื่อเสียง ก็จะได้ราคาที่ดีกว่าสำหรับเก็งกำไร 

 

Sneakers

 

 

ตลาดรองเท้าผ้าใบสะสมมีมูลค่า 69,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 และคาดว่าจะสูงถึง 113,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรองเท้าแบรนด์ยอดนิยม อย่างเช่น Nike Air Jordan และ adidas Yeezy โดยมีรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ อย่างเช่น Nike SB What the Dunk จากราคาเริ่มต้นที่ 120 ดอลลาร์ ตอนนี้ราคาอยู่ที่ราวๆ 10,000 ดอลลาร์เข้าไปแล้ว หรือ Nike Air Jordan 1 มือสอง ปี 1985 อาจขายได้มากกว่า 1,500 ดอลลาร์ และถ้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมกล่อง ราคาก็อาจจะมากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ทั้งที่ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 65 ดอลลาร์เท่านั้น 

 

Fine Wine

 

 

แม้ไวน์จะมีหลายฉลากหลากยี่ห้อ แต่มีเพียง 1% เท่านั้นที่เหมาะสำหรับการสะสม ซึ่งอาจต้องใช้เวลากว่าที่ไวน์ชนิดนั้นๆ จะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ไวน์กลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผลตอบแทนเฉลี่ย 10.6% ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาจากการติดตามของ Liv-ex Fine Wine 1000 ซึ่งเป็นดัชนีที่ติดตามไวน์ชั้นดี 1,000 ชนิดทั่วโลก 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising