ช่วงนี้มีหลายๆ เหตุผลที่ทำให้เราได้ยินคำว่า Cofftail (คอฟเทล) กันมากขึ้น คำนี้คือการผสมผสานระหว่างคำว่า Coffee และ Cocktail หรือก็คือการนำกาแฟมาเป็นส่วนผสมหลักในการชงเครื่องดื่มด้วยหลักการเดียวกับการชงค็อกเทลนั่นเอง
ในวงการค็อกเทลเรามีคลาสสิกค็อกเทลที่ใช้กาแฟอยู่แล้วอย่าง Espresso Martini หรือ Irish Coffee แต่ทั้งสองถือเป็นคลาสสิกค็อกเทลที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สำหรับการทำคอฟเทลนั้นจะเป็นเวอร์ชันไร้แอลกอฮอล์ที่ใช้กาแฟเป็นส่วนผสมแทนเหล้า ซึ่งเอาเข้าจริงมันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเพราะร้านกาแฟที่เป็น Specialty หลายๆ ร้านก็มีเมนูซิกเนเจอร์ของตัวเองที่นำกาแฟมาปรุงกับส่วนผสมต่างๆ ทั้งน้ำผลไม้หรือ Sparkling Water รสชาติต่างๆ สร้างส่วนผสมของรสชาติใหม่ๆ กันอยู่แล้ว แต่ความตื่นเต้นมันก็น่าจะอยู่ตรงที่ว่า มีนักชงที่เริ่มจริงจังกับการสร้างเมนูเครื่องดื่มด้วยวิธีนี้และทำให้คำว่าคอฟเทลถูกใช้มากขึ้น ข้อดีคือเหมือนเราได้เอาศาสตร์ของการผสมเครื่องดื่มจากฝั่งกาแฟและค็อกเทลมาผสมรวมกัน แน่นอนว่าผลลัพธ์ก็คือความเป็นไปได้ทางรสชาติที่ยังไม่สิ้นสุด
ก่อนที่เราจะพาไปดูกันว่ามีร้านใดใดเริ่มทำคอฟเทล (หรือแม้แต่ Teatail ม็อกเทลจากชา) กันบ้าง เราอยากชวนคุณหยิบโคลบริว (หรือกาแฟแบบใดก็ได้ที่ชื่นชอบ) ที่บ้านมาผสมแทนส่วนที่เป็นแอลกอฮอล์ตามสูตรคลาสสิกค็อกเทลทั้ง 5 สูตรนี้ดูในบ่ายวันหยุดให้จิบเพลินกันไปได้ตลอดทั้งวัน
หมายเหตุ จากสูตรเราทดลองจาก Cold Brew Concentrate แต่สำหรับแก้วของคุณเอง หากเลือกใช้กาแฟจากเครื่องเอสเพรสโซ หรือ Drip Bag ลองชิมและปรับปริมาณส่วนผสมได้ตามความชอบเลยค่ะ
วิธีทำ
- ผสมน้ำมะนาวและน้ำตาลทรายแดงเข้าด้วยกัน (ใส่เปลือกมะนาวลงไปในแก้วด้วย)
- ตบใบมินต์ก่อนใส่ลงไปในแก้ว ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน
- ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เติมกาแฟและโซดา
วิธีทำ
- ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เติมกาแฟและโทนิกให้สัดส่วนอยู่ราวๆ 1 ต่อ 3 (เราเลือกใช้โทนิกรสออริจินัล แต่ถ้าคุณชอบโทนิกกลิ่นอื่นก็เลือกใช้ได้เช่นกัน)
- เติมน้ำมะนาวเล็กน้อย และตกแต่งด้วยเปลือกเลมอน
- ถ้าเสน่ห์ของการดื่มจินโทนิก คือการเลือกชนิดของจินแล้วใส่สมุนไพรที่เข้ากันลงไป หลักการนี้คุณก็สามารถดูคาแรกเตอร์ของกาแฟ แล้วเลือกสมุนไพรอื่นๆ มาเสริม อย่างแท่งอบเชยก็ไม่ใช่เรื่องผิด
วิธีทำ
- ผสมกาแฟ น้ำมะนาว น้ำผึ้ง และน้ำเชื่อมขิงในเชกเกอร์ แล้วเทในแก้วที่มีน้ำแข็ง
- เพนิซิลิน คือ New Classic Cocktail ที่เพิ่งถูกคิดค้นไม่นานนี้โดยบาร์เทนเดอร์ชาวออสเตรเลีย แซม รอส (จากร้าน Attaboy และ Milk & Honey ในนิวยอร์ก) ราวปี 2005 แต่ได้รับความนิยมมากจนกลายเป็นคลาสสิกหน้าใหม่ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ค็อกเทลแก้วนี้คือส่วนผสมของขิง น้ำผึ้ง สกอตช์วิสกี้ ซิตรัส และความสโมกกี้จากวิสกี้ในเขตไอส์ลาย์ (Islay) เมื่อเรานำมาปรับเป็นคอฟเทล สูตรนี้ปรับให้ขิงและน้ำผึ้งเป็นตัวชูโรง คุณจะใช้น้ำเชื่อมขิง หรือขิงสดหั่นแล้ว Muddle ก่อนเชกไปด้วยก็ได้เช่นกัน
วิธีทำ
- ใส่น้ำแข็งในแก้วทรงสูง ผสมกาแฟ น้ำมะนาว น้ำเชื่อม คนให้เข้ากันแล้วเติมโซดาลงไป ตกแต่งด้วยเปลือกมะนาวเหลือง
- แก้วนี้ใครอยากพลิกแพลงอีกสูตร ให้ผสมกาแฟกับน้ำเชื่อม นำไปแช่แข็ง หยิบก้อนน้ำแข็งกาแฟ เติมน้ำมะนาวและโซดา คนให้เข้ากัน ก็จะได้อีกฟีลที่อร่อยไปอีกแบบ
วิธีทำ
- ผสมกาแฟ น้ำมะนาว น้ำผึ้ง และน้ำแข็งลงในเชกเกอร์ และเชกจนส่วนผสมเข้ากัน เสิร์ฟในแก้วค็อกเทล
- ถ้าคุณชอบดื่มกาแฟเชกสไตล์ Italian Shakerato เราเสนอให้เปลี่ยนส่วนผสมของน้ำเชื่อมเป็นน้ำผึ้ง และผสมน้ำมะนาวเล็กน้อยสไตล์ค็อกเทลที่ชื่อว่า Bee’s Knees ตามสูตรนี้เลย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์